สลด! 2 นักเรียนหญิงซ้อนรถจยย.ไปโรงเรียน จู่ ๆ เสียหลักชนเสาไฟ ดับ 1 สาหัส 1 ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด

สลด! 2 นักเรียนหญิงซ้อนรถจยย.ไปโรงเรียน จู่ ๆ เสียหลักชนเสาไฟ ดับ 1 สาหัส 1 ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ที่ถนนสายลานสัก-หนองฉาง บ้านเกาะตาซ้ง หมู่ 10 ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี จากกรณีวันที่ 31 พ.ค. 2567 เวลาประมาณ 7.30 น. มีอุบัติเหตุ รถจยย.ชนเสาไฟข้างถนนเสียชีวิต 1 ราย และสาหัสอีก 1 ราย ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนหญิงทั้ง 2 ราย

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด จากบริเวณถนนดังกล่าว ทราบว่าขณะนั้น ได้มีรถรับส่งเด็กนักเรียน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับรถวิ่งตามกันมา 2 คัน จังหวะนั้น รถคันที่ 1 ขับแซงขึ้นหน้าไปก่อน พร้อมกับมีรถจยย.ตามหลังคันที่ 1 มา ซึ่งขับขี่อยู่เลนซ้าย ขณะนั้นรถรับส่งเด็กนักเรียนคันที่ 2 ก็ได้วิ่งตีคู่กับรถจยย. สักพักก็เบี่ยงเลนขวาออกไปอย่างรวดเร็ว จังหวะเดียวกันรถจยย.ก็พุ่งชนเสาไฟข้างทางแล้ว

จากการสอบถามคุณยายชาวบ้านอายุ 70 ปี ซึ่งอยู่บ้านใกล้กับถนน เปิดเผยว่า ขณะนั้นตนเองได้กวาดบ้านอยู่ที่หน้าบ้าน ก็เห็นรถรับส่งนักเรียนวิ่งอยู่บนถนน แต่ไม่ทราบสาเหตุระหว่างเกิดเหตุ แต่ได้ยินเสียงดังตู้ม ตนเองจึงได้วิ่งออกมาดู ก็เห็นรถจยย.ของเด็กนักเรียนชนอยู่ที่เสาไฟข้างทาง จนเลือดท่วมตัวแล้ว

ทางด้าน แม่ของเด็กนักเรียนที่บาดเจ็บสาหัส ได้เปิดเผยว่า ลูกของตนเองเป็นคนขับ อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถจยย.ส่วนอีกคนที่เสียชีวิตคือคนซ้อนท้าย ขณะนั้นลูกสาว ได้ขับรถจยย.ออกไปโรงเรียนในเวลาประมาณ 7.10 น. โดยตัวแม่เองก็ขับรถตามหลังไปเส้นถนนเดียวกัน เพื่อมุ่งหน้าไปอำเภอหนองฉาง จังหวะนั้นก็ได้เห็นลูกสาวเกิดอุบัติเหตุข้างถนนแล้ว แต่ตัวน้องได้บอกกับแม่ว่าถูกรถเชี่ยว พร้อมกับจำอะไรไม่ได้อีก อยู่ระหว่างรักษาตัวให้หายก่อน แต่ก็ยังไม่ทราบว่าเหตุที่แน่ชัด

ในขณะที่ แม่ของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า น้องอายุ 14 ปี วันเกิดเกิดเหตุได้นอนค้างกับผู้บาดเจ็บ หลังจากนั้นก็จะมาโรงเรียนพร้อมกัน ตนเองและครอบครัว ยังติดใจและยังสงสัยการเสียชีวิตของลูกสาว ว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้น จะเกิดจากอุบัติเหตุตัวน้องล้มเองหรืออาจจะมีรถมาเฉี่ยว หรือมาเบียด จนทำให้น้องถึงแก่ชีวิต จึงอยากให้จนท.ตำรวจช่วยตรวจสอบที่เกิดเหตุ และหารถคันดังกล่าว ที่ขับอยู่ในช่วงเวลานั้น มาสอบถามถึงสาเหตุอย่างละเอียด

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้เข้าสอบถามกับคุณตาอายุ 76 ปี ได้เปิดเผยว่า ตนเองเห็นเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ตัวตาจะนั่งอยู่ที่ซุ้มแฝก ตรงนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งจะคอยมองเด็กนักเรียนในช่วงเช้า มองออกไปด้านหน้าถนนอยู่ตลอด จังหวะช่วงเช้า ของวันเกิดเหตุเห็นรถจักรยานยนต์ ของเด็กนักเรียนสองคนนั้น ได้ขับขี่มาด้วยความเร็ว หลังจากนั้นคนขับรถจยย.ก็ได้หยิบมือถือส่งให้เพื่อนนั่งซ้อนท้ายข้างหลังดู แต่ยังไม่หันหลังกลับไป เพื่อนนั่งซ้อนท้ายหัวไปโหม่งเข้าที่เสาไฟเต็ม ๆ

ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุทัยธานี ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ