กลายเป็นเรื่องที่ได้รับการพูดถึงไม่น้อยเลยจากชาวโซเชียลฝั่งอเมริกันในช่วงที่ผ่านมา เกี่ยวกับการดื่มกาแฟตอนเช้า และผลกระทบเชิงลบต่อร่างกายในช่วงบ่าย จึงทำให้คำถามที่ว่า ควรดื่มกาแฟเวลาไหนจึงจะดีที่สุด เกี่ยวกับเรื่องนี้ มาริลีน คอร์เนลิส นักวิจัยเกี่ยวกับกาเฟอีนจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ชิคาโก ชี้ว่า แต่ละคนก็มีปฏิกิริยาจากการได้รับกาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายที่แตกต่างกัน

ซึ่งตามปกติแล้ว กาเฟอีนทำให้เราหลับยาก รู้สึกตื่นตัว เพราะมีฤทธิ์ด้านสารอะดีโนซีน หรือสารเคมีที่สมองหลั่งออกมาตามธรรมชาติ เพื่อทำให้เรารู้สึกง่วง อยากนอน เพื่อจะได้พักผ่อน และพันธุกรรมของแต่ละคนก็ส่งผลกระทบต่อการออกฤทธิ์ของกาเฟอีนเช่นเดียวกัน บางคนดื่มกาแฟเพียงถ้วยเดียวก็อยู่ได้ทั้งวันโดยไม่อ่อนล้า ขณะที่บางคนต้องดื่มกาแฟซ้ำหลายถ้วย จึงจะอยู่ได้ทั้งวัน

ในขณะที่ ไมเคิล แกรนด์เนอร์ ผู้อำนวยการโครงการวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพและการนอนหลับที่มหาวิทยาลัยแอริโซนา กล่าวว่า ปกติแล้ว ร่างกายจะใช้เวลาราว 20 - 30 นาที จึงจะรู้สึกถึงการออกฤทธิ์ของกาเฟอีน หลังจากที่มันถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด หากมองว่าร่างกายสั่งสมสารอะดีโนซีนมาตลอดทั้งวัน การดื่มกาแฟตั้งแต่เช้าจะทำให้ความง่วงส่งผลกระทบน้อยลง เพราะตอนเช้าเป็นช่วงที่มีระดับสารอะดีโนซีนน้อยที่สุด

ทางด้าน ดร. เดบอราห์ ลี ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับจากบริษัท เก็ตเลด เบดส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังของอังกฤษ กล่าวว่า ฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งหลั่งออกมาเมื่อเรารู้สึกเครียดนั้น เกี่ยวข้องกับวงจรการนอนของเรา หากมีปริมาณคอร์ติซอลสูงก็อาจจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และถ้าหากเรามีฮอร์โมนตัวนี้อยู่ในระดับสูงสุดตอนที่ตื่นนอน การดื่มกาแฟทันทีหลังจากตื่นตอนเช้าก็อาจจะเป็นผลร้ายมากกว่าดี หรือแม้กระทั่งทำให้เรา ดื้อกาเฟอีน ได้ในระยะยาว

แต่สำหรับ แอลลิสัน เบรเกอร์ นักประสาทชีววิทยาจากกองทัพสหรัฐกลับไม่เห็นด้วย โดยอ้างผลจากการวิจัยว่า การบริโภคกาเฟอีนในตอนเช้านั้นส่งผลกระทบต่อระดับคอร์ติซอลได้เพียงน้อยนิด การดื่มกาแฟตอนเช้ายังช่วยให้เรามีสมาธิในการทำงานหรือออกกำลังกายช่วงเช้า ถ้าหากดื่มกาแฟในช่วงสายมาก ๆ กลับจะทำให้กาเฟอีนออกฤทธิ์ไปได้จนถึงช่วงบ่าย

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เห็นพ้องตรงกัน นั่นก็คือ ควรงดดื่มกาแฟก่อนถึงเวลานอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องถูกกระตุ้นจากกาเฟอีนที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย

ข้อมูล NEW YORK POST