ล้างบางเครือข่ายนอมินีต่างชาติในภูเก็ต พบรัสเซียร่วมร้อย ลักลอบทำธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาต ถือครองที่ดินมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

ล้างบางเครือข่ายนอมินีต่างชาติในภูเก็ต พบรัสเซียร่วมร้อย ลักลอบทำธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาต ถือครองที่ดินมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

วันนี้ (31 พ.ค 67) ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า ตึกกองปราบฯ (อาคารประชาอารักษ์) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติ แถลงข่าว เปิดปฏิบัติการ ล้างบางเครือข่ายนอมินีต่างชาติในภูเก็ต พบรัสเซีย ร่วมร้อย ดำเนินทำธุรกิจที่ไม่ได้รับคือที่ดินมูลค่ากว่า 1000 ล้านบาท ความ คุ้มค่าจึงได้ทำการจับกุม และได้ดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหา 231 ราย ฐานะนิติบุคคล 96 ราย ฐานะบุคคล 135 ราย จำแนกเป็น ต้องหาชาวต่างชาติ จำนวน 98 ราย ประกอบด้วย ชาวรัสเซีย 67 ราย ชาวจีน 4 ราย ชาวยูเครน 3 ราย ชาวอินเดีย 3 ราย ผู้ต้องหาชาวไทย 37 ราย และ สัญชาติอื่นๆ 21 ราย

ฐานความผิด คนต่างด้าง ประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายคนต่างด้าวกินให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่คนต่างด้าวให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือประกอบธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีไทยราชบัญญัตินี้ โดยคนต่างด้าวไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว ตามมาตรา 37 แห่ง พระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสน บาทถึง 1ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนในฐานความผิด ของผู้มีสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่คนต่างด้าว รวมร่วมกันให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดว่าในบัญชีทางพระราชบัญญัตินี้โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัดหรือนิติบุคคลใดใดเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจและหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 2542 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสน บาทถึง 1ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยตรวจยึดของกลางได้จำนวน 9 รายการ สมุดสมุดบัญชีธนาคาร 225 เล่ม ยอดเงินหมุนเวียนสำหรับจัดตั้งบริษัท 318,967,824.43 บาท และเอกสารการครองที่ดิน จำนวน 245 รายการ

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช กล่าวว่า พฤติการณ์ เนื่องจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้มีการร้องเรียนว่ามีชาวต่างชาติมาประกอบธุรกิจ และควรซื้อที่อยู่อาศัย จนทำให้ประชาชนได้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน จากตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ห้วงปี 2562 จนถึงเดือนมีนาคม 2567 มีชาวรัสเซียเดินทางเข้ามาใน จ.ภูเก็ต สูงถึง 92,764 ราย คิดเป็น 81% เมื่อเทียบกับชาวรัสเซียที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะแค่ในห้วงปี 2567 (ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567) มีชาวรัสเซียเดินทางเข้ามาในภูเก็ตจำนวนถึง 59,717 รายพบว่ามีชาวรัสเซียจดทะเบียนบริษัทในห้วงปี 2566 จนถึงปัจจุบัน เพิ่มสูงจำนวนถึง 1,603 บริษัท ซึ่งถือว่าสูงขึ้นกว่าในห้วงปี 2559-2565 ถึง 50 เท่าตัว โดยในช่วงนั้น มีชาวรัสเซียยื่นจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทในพื้นที่ภูเก็ตเฉลี่ยไม่เกิน 30 บริษัทต่อปีเท่านั้น

และจากการตรวจสอบพบว่ามี 24 บริษัท การถือครองอสังหาริมทรัพย์ 245 รายการ จำแนกเป็นห้องชุด จำนวน 196 ห้อง เนื้อที่รวมประมาณ 10,500 ตารางเมตร โฉนดที่ดิน จำนวน 43 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 24 ไร่ ไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง ราคาประเมินกว่า 1200 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ สอบสวนขยายผลเพิ่มเติมถึงประเด็นประเด็นการได้มา หากตรวจสอบพบว่าคนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรมที่ดินแทนคนต่างด้าวคือความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จ ต้องระหว่างโทษจำ ไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ ป.อาญา มี.267 และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญากฏหมายที่ดิน มาตรา 111-113 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยในส่วนของที่ดินที่ต่างด้าวได้มาโดยผิดกฎหมาย จะต้องเข้าสู่มาตรการบังคับให้จำหน่ายที่ดิน ภายในเวลาที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนด ซึ่ง ไม่น้อยกว่า 180 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี ถ้าไม่จำหน่ายที่ดินภายในเวลาที่กำหนดให้อธิบดีกรมที่ดินที่อำนาจจำหน่ายที่ดิน จะต้องทำดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ