จับกุมผู้ต้องหาคดีนำเข้ารถหรู 
เลี่ยงภาษี 9 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท

จับกุมผู้ต้องหาคดีนำเข้ารถหรู 
เลี่ยงภาษี 9 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท

วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า ชุดปฏิบัติการที่ 1 ของศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้ร่วมกันจับกุม นายเชษฐา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 931/2567 ลงวันที่ 7 มีนาคม 2567 คดีพิเศษที่ 81/2565 ของสำนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้นๆ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

โดยผู้ต้องหาได้นำเข้ารถยนต์รวมกัน 9 คันได้แก่

1) PORSCHE รุ่น CAYENNE S HYBRID

2) BMW รุ่น Z4SDRIVE20I

3)BMW รุ่น Z4 SDRIVE20I

4) PORSCHE รุ่น CAYENNE DIESEL 3.0

5) PORSCHE รุ่นCAYENNE S HYBRID

6) PORSCHE รุ่น BOXSTER 2.7 CABRIOLET

7) PORSCHE รุ่น BOXSTER 2.7 CABRIOLET

8)PORSCHE รุ่น BOXSTER 2.7 CABRIOLET

9)PORSCHE รุ่น BOXSTER 2.7 CABRIOLET

ชำระภาษีอากรขาดเป็นเงินจำนวน42,707,718.09 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บริเวณอาคารอู่ทองแมนชั่น แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ในการจับกุม เจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญารวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งการจับและควบคุมตัวไปยังพนักงานอัยการและผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง รวมทั้งได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้ว และได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง นายนันท์นิพัทธ์ นิราศนภาภัยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบเพื่อนำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชา จัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดในอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ