รวบ มาเบล นักบิด โพสต์หลอกขายโทรศัพท์ผ่านออนไลน์
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.รุ่งฟ้าหรือมาเบล อายุ 24 ปี ภูมิลำเนา ตำบลพุขาม อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ.316/2567 ลงวันที่ 23 เมษายน 2567 กระทำความผิดฐาน ฉ้อโกง, ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จับกุมที่คอนโด ภายในซอยนวมินทร์ 58 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
โดยพฤติการณ์การกระทำความผิด คือ มีมิจฉาชีพปลอมตัวเป็นผู้ใช้ Facebook เปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือผ่านสื่อออนไลน์โปรไฟล์ดี สร้างความน่าเชื่อ โพสต์จำหน่ายโทรศัพท์หลากหลายยี่ห้อ และสามารถเช็คเครดิตได้ ต่อมามีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินชำระค่าสินค้า โดยใช้บัญชีธนาคารชื่อบัญชี นางสาวรุ่งฟ้า เมื่อผู้เสียหายทวงถาม พยายามบอกปัด สุดท้ายปิด หรือบล็อก Facebook บิดเงินไม่ส่งของหลบหนีไป เมื่อตรวจสอบ BlacklistSeller เพื่อเช็คผู้ขายที่ควรระวัง พบบัญชีธนาคารอีกจำนวนมาก ที่มีการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันคือหลอกให้โอนชำระค่าโทรศัพท์มือถือ โดยบัญชีดังกล่าวใช้ชื่อ "นางสาวรุ่งฟ้า" มีจำนวนผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ราย ส่วนใหญ่ผู้เสียหายอายุน้อย 17 – 25 ปี เชื่อว่าน่าจะเห็นแก่โทรศัพท์ที่มีราคาถูก และประวัติอาชญากรรมยาวเป็นหางว่าว มูลค่าความเสียหายแต่ละรายไม่ใช่น้อย
จากการสอบถามนางสาวรุ่งฟ้าฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับให้การรับว่า ตนเป็นเพียงทางผ่านที่ใช้บัญชีสำหรับฝากรับเงินโอนจากผู้อื่น แล้วโอนต่อไปยังปลายทางอีกทอดนึง โดยมีผู้ใช้ Facebook แปลกหน้าทักบทสนทนามาพูดคุยสอบถาม ให้ค่าจ้างสำหรับรับโอนครั้งละ 300-500 บาท โดยไม่รู้ว่ายอดเงินดังกล่าวเป็นเงินค่าอะไร ได้มาจากไหน และอ้างว่าการรับโอนแต่ละครั้งตนใช้บัญชีธนาคารเดียว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำบัญชีอื่นที่ใช้หลอกผู้เสียหายรายต่างๆ ไม่ซ้ำธนาคาร มากางให้ดูตนให้การปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ผู้ใช้บัญชีดังกล่าวแต่อย่างใด ไม่รู้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงแต่อย่างใด และไม่ได้เปิดบัญชีอื่นให้ผู้ใดเอาไปใช้
เมื่อตรวจสอบจากระบบพบว่า นางสาวรุ่งฟ้า ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 367/2563 ลง 25 กันยายน 2563 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” อีก 1 หมาย และประวัติการกระทำความผิดอาญาในลักษณะการฉ้อโกงผ่านสื่อออนไลน์ (จำหน่ายโทรศัพท์มือถือ) สุดท้ายบิดเงินหนี อีกจำนวนหลายคดีไม่ซ้ำท้องที่เกิดเหตุ
พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่าด้วยนโยบายของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่มีพฤติการณ์การกระทำความผิดในรูปแบบออนไลน์ หรือบัญชีม้า พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการดำเนินการจับกุมในครั้งนี้ และฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังมิดฉาชีพที่ชอบหลอกให้รับโอนเงิน เปิดบัญชี แล้วได้ค่าจ้าง เกรงว่าสุดท้ายจะได้ไม่คุ้มเสีย กลายเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน