เศร้าสลด! เด็กหญิง 4 ขวบจากไปก่อนวัยอันควร ผลชันสูตรชี้ชัดมาจากวิธีชงนมของแม่ งานนี้ถึงขั้นติดคุก (ตปท.)
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2567 สำนักข่าวต่างประเทศ New York Post ได้มีการรายงานระบุว่า ผู้ปกครองจากรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบไปด้วย ทามาร่า แบงก์ (Tamara Banks) คุณแม่วัย 41 ปี และ คริสโตเฟอรร์ โฮบ์ (Christopher Hoeb) คุณพ่อวัย 53 ปี มีลูกชายคนโต และลูกสาวคนเล็ก ที่ทั้งคู่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคเบาหวานภายใต้การดูแลของพวกเขา
สำหรับเรื่องนี้เริ่มมาจาก เมื่อปี 2022 ลูกสาวคนเล็กของพวกเขาประสบปัญหาสุขภาพร้ายแรงเป็นเวลาหลายวัน อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองยังคงเพิกเฉย ไม่โทรเรียก 911 เพื่อขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งเด็กร่างกายเปลี่ยนเป็นสีม่วงและหยุดหายใจ
โดย อัยการ กล่าวหาว่า ผู้ปกครองรู้ว่าลูกสาวต้องหย่านมจากขวด แต่ยังคงผสมนมผงกับเครื่องดื่มโซดาที่มีรสชาติหวาน ให้เด็กดื่ม จนทำให้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และเสียชีวิตจากโรคกรดคีโตซิสจากเบาหวาน ซึ่งผลการสแกนในภายหลังจากโรงพยาบาลเด็ก พบว่าเด็กหญิงคนนี้สมองตายแล้ว
นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาล ยังยืนยันว่า หลังจากการละเลยและทารุณกรรมมาเป็นเวลานานตลอดชีวิตอันแสนสั้น ฟันแต่ละซี่ของเด็กหญิงก็ผุพังอย่างรุนแรง คู่สามีภรรยาไม่เคยพาลูกสาวไปหาหมอฟัน แม้ว่าผู้เป็นแม่จะแย้งว่า เธอไม่รู้ว่าการให้ลูกดื่มนมผงที่ผสมเช่นนี้จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ แต่ทางอัยการโต้กลับโดยบอกว่า ลูกชายคนโตของพวกเขาก็ป่วยเป็นโรคเบาหวานเช่นกัน และอยู่ในอาการโคม่า เธอจะไม่รู้ถึงอันตรายได้อย่างไร
ทั้งนี้ทั้งนั้น นมสูตรที่เธอชงให้ลูกดื่มนั้น เป็นเครื่องดื่มโซดายี่ห้อที่เลือกมาใช้ ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงถึง 77 กรัม ซึ่งตามที่ผู้เชี่ยวชาญเคยเตือนเอาไว้ว่า เด็ก ๆ ไม่ควรบริโภคเกิน 24 กรัมต่อวัน แน่นอนว่านมผงสูตรนี้น้ำตาลสูงกว่ามาก
เท่านั้นยังไม่พอ อัยการ ยังกล่าวอีกด้วยว่า ผู้เป็นแม่ใส่ใจแต่ตัวเองเท่านั้น จะไปพบแพทย์และกินยาสำหรับปัญหาสุขภาพของเธอเอง แต่ไม่เคยใส่ใจกับสภาวะสุขภาพของลูกทั้งสองคนเลย มันยากที่จะเป็นพ่อแม่ที่ดี แต่อย่างน้อยคุณต้องเป็นพ่อแม่ธรรมดา ๆ การไม่รู้ว่าต้องทำอะไรไม่ใช่ข้อแก้ตัว
ท้ายที่สุด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา ผู้พิพากษามีคำสั่งตัดสินให้ ผู้เป็นแม่ต้องรับโทษจำคุก 9 - 13 ปี ส่วนฝ่ายผู้เป็นพ่อ ซึ่งรับสารภาพในข้อหา ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา เช่นกัน ถูกตัดสินจำคุก 6 เดือน