ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รรท.ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญและเร่งรัดให้ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการกระทำผิดเกี่ยวกับสินเชื่อออนไลน์ผิดกฎหมายและหนี้นอกระบบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ปฏิบัติการอย่างเข้มข้นมาโดยตลอดและขยายผลเพื่อจับกุมให้ได้ตัวผู้กระทำผิดตลอดทั้งขบวนการ

วันเสาร์ที่ 25 พ.ค.67 ร่วมแถลงข่าว ปฏิบัติการ FULL STEAM กรณีกรณีตำรวจไซเบอร์ บุกค้นรังเงินกู้นอกระบบพัทลุงพร้อมยึดทรัพย์กว่า 10 ล้าน และขยายผลเว็บพนัน หวานเจี๊ยบ777 บุกบ้านตัวการใหญ่ยึดทรัพย์กว่า 2 ล้าน

สืบเนื่องจากเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์ โดย กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.5 ได้รับเรื่องร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากหนี้นอกระบบ จึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดชุมพร และได้นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร และสามารถจับกุม น.ส.ดาราพร แอดมินเพจเฟซบุ๊กเงินกู้นอกระบบ พร้อมอาวุธปืนได้ภายในอาคารดังกล่าว

จากการสืบสวนขยายผลจากผู้ต้องหาดังกล่าว ทำให้ทราบว่า น.ส.ดาราพร ถูกว่าจ้างจากนายทุนรายหนึ่งในราคาเดือนละ 25,000 บาท ให้ดูแลกลุ่มเฟซบุ๊กปล่อยกู้หนี้นอกระบบ และให้คอยติดตามทวงหนี้จากลูกหนี้ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.5 เร่งติดตามจับกุมนายทุนรายดังกล่าวและผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการปราบปรามแก๊งหนี้นอกระบบอย่างเด็ดขาด

ต่อมา พ.ต.อ.อุกกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 พร้อมกำลังได้ร่วมกัน ลงพื้นที่สืบสวน จนทราบว่านายทุนรายดังกล่าวคือ น.ส.เณศรา อายุ 33 ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดพัทลุง พร้อมนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเครือข่ายดังกล่าว จำนวน 3 จุด ดังนี้

1. บ้านพักจำนวน 2 หลัง ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

2. บ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

3. บ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.ดอนทราย อ.ควนขุนน จ.พัทลุง

จากการเข้าตรวจค้นทั้ง 3 เป้าหมาย สามารถตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องได้หลายรายการ อาทิ

- รถยนต์เก๋งยี่ห้อMG5 สีเหลือง ป้ายแดง จำนวน 1 คัน

- โฉนดที่ดิน จำนวน 6 ฉบับ

- กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 15 ใบ

- สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 9 เล่ม

- หนังสือสัญญาเงินกู้ จำนวน 13 ฉบับ

- แหวนเพชร 1 วง

- นาฬิกา Hublot Geneve 1 เรือน

รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดกว่า 10 ล้านบาท

ในส่วนของ น.ส.เณศราฯ ได้ไหวตัวทันและหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดและดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ น.ส.เณศราฯ ในข้อกล่าวหา ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 4 ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 ความผิดตาม ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 มกราคม 2525

ข้อ 5 ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับในทางการค้าปกติ โดยไม่ขออนุญาตจากรัฐมนตรีฯ และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำของกลางส่งพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งเดินหน้าไล่ล่าผู้ต้องหาที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน