สุดเศร้า! นศ.สาวปี 4 ร้องเพลงหาเงินส่งตัวเองเรียน เพื่อนโทร.หาทั้งวันไม่รับ เสียชีวิตปริศนาคาบ้านเช่า
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 24 พ.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุภายในบ้านเช่าแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งท่างิ้ว รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่า พบเจ้าของหอพักและญาติ ๆ ช่วยกันงัดประตูห้องที่ล็อคกลอนด้านในเข้าไปพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนางสาวสุพรรษา หรือ น้องจอย แซ่บ่าง อายุ 22 ปี ชาว ต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช สภาพนอนตะแคงบนที่นอน สวมชุดนอน และห่มผ้าสีน้ำเงิน ศพเริ่มแข็งคาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 - 12 ชม.
จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย และตรวจสอบในห้องอย่างละเอียดไม่ร่องรอยการรื้อค้นหรือความผิดปกติแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ว่า เกิดจากสาเหตุอะไร เนื่องจากผู้เสียชีวิต อายุยังน้อย สุขภาพร่างกายแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัว จากนั้นได้นำศพผ่าชันสูตรอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.สุพรรษา หรือ น้องจอย ผู้เสียชีวิต เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช คณะวิทยาการจัดการ สาขาการตลาด มีผลการเรียนดี นิสัยดี เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนและอาจารย์ นอกจากนี้น้องจอย ใช้เวลาว่างทำงานเป็นนักร้องประจำวง ตามร้านอาหารต่าง ๆ ใน อ.เมือง
และรับจ้างร้องเพลงตามงานต่าง ๆ เพื่อหาเงินเรียนหนังสือ ส่งเงินให้แม่ด้วยความกตัญญู โดยไม่ได้มีเวลาพักผ่อนหรือพักผ่อนน้อยมาก และมักกลับถึงบ้านเช่าเกือบตี 3 เกือบทุกคืน ส่วนกลางวันนอนไม่กี่ชั่วโมง ก็ออกไปทำงานร้องเพลงอีก ซึ่งเป็นอย่างนี้ทุกวัน
จนกระทั่ง เมื่อคืนที่ผ่านมา (24 พ.ค.) น้องจอย กลับมาจากร้องเพลงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง ถึงบ้านเช่าเกือบตี 3 และโทรศัพท์คุยกับแม่และเพื่อนครู่หนึ่งก่อนเข้านอน จนเพื่อนร่วมวงดนตรีโทรศัพท์หาตลอดทั้งวัน แต่น้องจอย ไม่รับสายทั้งไลน์ เฟสก็ไม่ตอบ เพื่อนเกิดความสงสัย จึงพากันมาที่บ้านเช่า แต่ประตูปิดล็อคด้านใน
จึงขออนุญาตเจ้าของหอพักพังประตูเข้าไป และพบร่าง น.ส.สุพรรษา หรือ น้องจอย นอนเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างนำศพผ่าชันสูตรศพอย่างละเอียดที่นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน