ใครกินอยู่ดูด่วน! หนุ่มออฟฟิศวัย 30 กลายเป็นอัมพาต หลังกิน 2 เมนูนี้ประจำ (ข่าวต่างประเทศ )
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 เว็บไซต์ Soha ได้เผยเรื่องราวของหนุ่ม พนักงานออฟฟิศ วัย 30 ปี อาศัยในเมืองไถจง ของไต้หวัน หลังจากเหนื่อยจากการทำงานก็มักจะทานเมนูโปรดของตัวเองเป็นประจำ โดยที่ไม่ได้ล่วงรู้ว่ามันจะทำให้เขากลายเป็นโรคหลอดเลือดสมองรุนแรง จนถึงขั้นกลายเป็นอัมพาตตั้งแต่อายุเท่านี้ เพื่อนร่วมงานสังเกตเห็นว่า เขาเหนื่อยง่ายจับนวดศีรษะอยู่ตลอดเวลา กระทั่งตอนช่วงใกล้พักเที่ยง อยู่ ๆ เพื่อน ๆ ก็ได้ยินเสียงดัง ก่อนจะเห็นเขาล้มลงไปที่พื้น ปากของเขาบิดเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลืมตาได้ข้างเดียว และมีน้ำตาไหลออกมา เพื่อนร่วมงานพยายามเข้าไปช่วยพยุงตัวเขาขึ้นมา แต่พบว่าเขาพูดไม่ค่อยได้ และร่างกายซีกซ้ายขยับไม่ได้ เพื่อนร่วมงานรีบแจ้งหน่วยฉุกเฉินพาตัวหวังส่งโรงพยาบาล ดร.อู๋ อวี้ซวน แพทย์ห้องฉุุกเฉินเผยว่า หวังเป็นโรคหลอดเลือดสมอง สมองซีกซ้ายบวม ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด เกิดการอุดตันของหลอดเลือดในกะโหลกศีรษะ ทำให้สมองขาดเลือดอย่างรุนแรง และเกิดภาวะเซลล์สมองตา ย ในตอนแรกแพทย์รักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือดแต่ไม่เป็นผล จึงต้องดำเนินการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการผ่าตัดจะเป็นผลสำเร็จและรักษาชีวิตของผู้ป่วยเอาไว้ได้ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ร่างกายซีกซ้ายของเขากลายเป็นอัมพาต ยากที่จะเคลื่อนไหวได้ ปัจจุบันต้องเข้ารับรักษาและฟื้นฟูร่างกายอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทำกายภาพบำบัด รวมถึงวิธีการฝังเข็มเพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
จากการตรวจสอบประวัติ เกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ โดยหวังชอบบริโภค 2 เมนูโปรด ได้แก่ ไก่ทอดและชานม ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมนูโปรดของหลาย ๆ คนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มสาว เพื่อนร่วมงานของเขาเผยว่า สัปดาห์หนึ่งทำงาน 5-6 วัน หวังจะสั่งไก่ทอดและชานมมากิน 3 วัน และทำเช่นนี้เป็นประจำ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่เขารูปร่างสูงใหญ่ ปริมาณที่เขากินจึงมากกว่าคนทั่วไปเป็น 2 เท่า เขากินแทนมื้ออาหารหลัก และหากมีใครเข้าไปเตือน เขาก็จะบอกว่า "เป็นวิธีคลายเครียด" ดร.อู๋ อวี้ซวน เผยว่า ทั้งไก่ทอดและชานมเป็นเมนูที่มีแคลอรี่สูง แถมมีไขมัน ยิ่งเมื่อบริโภคร่วมกันในปริมาณมาก ยิ่งต้องระวังอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย เพราะทั้งมีโซเดียม และน้ำตาลสูง ส่งผลต่ออวัยวะสำคัญต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะไต และหัวใจ เพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง และการเกิดลิ่มเลือด จนนำไปสู่การอุดตัน และโรคหลอดเลือดสมอง
นอกจากพฤติกรรมการกินแล้ว ลักษณะการใช้ชีวิตของผู้ป่วยก็มีผลเช่นเดียวกัน รายงานเผยว่า เขามักจะนั่งทำงานที่โต๊ะเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน จะลุกขึ้นยืนก็ต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้น อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬา เขามักจะนอนดึกเพื่อเล่นเกม และในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะนัดออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน จากกรณีของหวัง แพทย์ได้เตือนให้คนหนุ่มสาวให้ความสำคัญกับการกินและการใช้ชีวิตมากขึ้น ควรตระหนักถึงสุขภาพของตัวเอง และระมัดระวังสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ โดยอาจมีอาการ เช่น ปวดศีรษะ ตาพร่ามัวกะทันหัน สูญเสียการมองเห็นชั่วคราว เห็นภาพซ้อน ใบหน้าหรือซีกหนึ่งของร่างกาย มีอาการชาหรืออ่อนแรง ปากเบี้ยว หรือตามองไม่ตรง พูดไม่ชัด ออกเสียงและเดินลำบาก หากได้รับการรักษาทันเวลา ก็อาจป้องกันการเกิดอัมพาตได้
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha