ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับรวม 2 ราย ได้แก่ 1. นายจิรพนธ์ฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตะกั่วป่า ที่ จ.32/2567 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 2. นางสาววิติพรฯ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตะกั่วป่า ที่ จ.33/2567 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ สถานที่จับกุม บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสัญชาติเมียนมา ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์จากจังหวัดระนองมุ่งหน้าจังหวัดพังงา เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้มีผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาย 1 คน ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ร่วมกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นหญิงอีก 1 คน นั่งซ้อนท้าย ขับขี่รถจักรยานยนต์มาประกบด้านข้างผู้เสียหาย ก่อนที่ผู้ต้องหาซึ่งเป็นชายจะยื่นมือไปดึงกุญแจรถของผู้เสียหายและใช้เท้าถีบรถผู้เสียหายจนเสียหลักล้มลง หลังจากนั้นได้ลงจากรถและกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ของผู้เสียหายหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคุระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวน สอบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคือ นายจิรพนธ์ฯ และ นางสาววิติพรฯ ซึ่งเป็นสามีภรรยากันพนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุมัติหมายจับและประกาศสืบจับผู้ต้องหาทั้งสอง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนีมาอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ห้องเช่าในพื้นที่ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาสองสามีภรรยานี้ไว้ได้ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคุระบุรี จังหวัดพังงาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ได้นำทองที่ได้จากการ ชิงทรัพย์ไปขายและนำเงินมาใช้กิน เที่ยว และเสพยาเสพติดจนหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน