วันนี้ (20 พ.ค. 2567) มีปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ 4 ป. คือ ป.ป.ท. / ปปป. / ป.ป.ช. และ ปปง. บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักและสำนักงานของนายช่างโยธาชำนาญงาน กองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักงานโยธา กทม. หลังมีพฤติกรรมเรียกรับสินบนเพื่อแลกกับการช่วยแก้ไขแบบแนวเขตโครงการถนนเลียบวารี ซึ่งรุกล้ำเข้าไปในเขตสนามกอล์ฟวินด์เซอร์ปาร์ค แอนด์ กอล์ฟคลับ โดยเรียกรับเงินถึง 9 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีธนาคาร พบมีทรัพย์สินถึง 79 ล้านบาท

บ้านจัดสรรในตำบลบ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คือจุดแรก ที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. / ปปป. / ป.ป.ช. และ ปปง. เข้าตรวจค้น หลังสืบทราบว่าเป็นบ้านพักของนายภีมพงษ์ นายช่างโยธาชำนาญงาน กองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักงานโยธา กทม. และภรรยา คือพันจ่าอากาศเอก อรนุช มีพฤติกรรมแสดงตนว่ามีอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขแบบปรับปรุงถนน เรียกรับเงินกับบริษัท วินด์เซอร์ปาร์ค แอนด์ กอล์ฟ คลับ จำนวน 9 ล้านบาท เพื่อแลกกับการแก้ไขแบบแนวเขตถนนของโครงการที่ กทม. ดำเนินการ ซึ่งล้ำเกินเข้ามาในพื้นที่สนามกอล์ฟ

เจ้าหน้าที่ยังเข้าค้นเป้าหมายอีก 5 จุด ซึ่งร่วมขบวนการเดียวกัน คือบ้านของนางสาวลินดา ในพื้นที่สวนหลวง กรุงเทพ / ลินดา ทำหน้าที่รับเงินโอนเข้าไปในบัญชี จำนวน 1,500,000 บาทบ้านนายปองพล ถาวรวงศ์ พื้นที่หมู่ 9 ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา / ปองพล ทำหน้าที่รับเช็ค 5,000,000

จุดต่อมาคือบ้านของนางสาสิรินยาพัทธ์ ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลางคูวัด อำเภอมืองปทุมธานี ซึ่งเป็นใกล้ชิดของนายภีมพงษ์ฯ / เจ้าหน้าที่พบหลักฐานการโอนเงินจากภีมพงษ์โอนเงินให้หลายล้านบาท และจุดสุดท้ายคือคอนโดมิเนียมย่านงาทวงศ์วาน ของนางสาวณิชชา วรรณประภา ซึ่งมีชื่อซื้อคอนโด 10 ห้อง และยังเป็นคนใกล้ชิดของภีมพงษ์อีกคน

ปฏิบัติการนี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัท วินด์เซอร์ฯ ร้องทุกข์ผ่าน ป.ป.ท. ว่านายภีมพงษ์ ซึ่งเป็นช่างโยธาชำนาญงาน กองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักงานโยธา กทม. มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับในการจัดทำแผนที่รายละเอียดเพื่อประกอบการเสนอ พ.ร.ฎ. กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนและ พ.ร.บ. เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและทรัพย์สินในเขตทางเวนคืน

เพื่อใช้ในการอันเป็นสาธารณูปโภค หรือการผังเมือง หรือประโยชน์สาธารณะอย่างอื่นของกรุงเทพมหานคร โดยนายภีมพงษ์เข้าไปแอบอ้างกับบริษัท วินด์เซอร์ฯ เมื่อปี 2561 ว่าพื้นที่สนามกอล์ฟต้องถูกเวนคืนที่ดินเพื่อให้แนวถนนตัดเข้าไป จึงเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการย้ายแนวเขตโดยอำพรางด้วยการเปิดบริษัทแอบอ้างว่าที่ปรึกษาเกี่ยวกับการเขียนแบบ แล้วให้ปองพลเข้ามาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา เพื่อให้การจ่ายเงินก้อนแรก จำนวน 5 ล้านบาท กลายเป็นการจ้างที่ปรึกษาแทน

จากนั้นภีมพงษ์ ยังออกอุบายให้ผู้เสียหายแก้แบบจากการทำถนนเป็นทางลอดกลางสนามกอล์ฟ เพื่อแลกกับเงิน 1 ล้าน 5 แสนบาท นอกจากนี้ยังเรียกรับค่าติดตามทวงถามอีก 2 ล้าน 5 แสนบาท รวมทั้งหมด 9 ล้านบาท

เวลาผ่านไปกว่า 5 ปี แต่ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ผู้เสียหายเกิดความสงสัยจึงเข้าไปทวงถามกับสำนักงานโยธา กทม. ปรากฎว่านายภีมพงษ์หลอกว่าแนวเขตการเวนคืนต้องผ่ากลางสนามกอล์ฟ แต่ในข้อเท็จจริงอยู่เพียงแค่ขอบสนามเท่านั้น จึงทำให้ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับ ป.ป.ท. ปปป. ป.ป.ช. และ ปปป.

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน