เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 พ.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัฒนานิคมลพบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุฟ้าผ่า กลางไร่มันสำปะหลัง หมู่ที่ 3 ตำบลพัฒนานิคม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย จึงได้เดินทางไปสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุกลางไร่มันสำปะหลังห่างจากถนนเข้าจุดชมวิวเขาพยาเดินธงประมาณ 500 เมตร บริเวณกระท่อมกลางไร่ พบร่างผู้เสียชีวิตนอนหงายอยู่บนพื้นริมเพิงพักทราบชื่อนางแว๋ว หยั่งถึง อายุ 58 ปี ชาวต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม

จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกฟ้าผ่า ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าแกรนด์ฟีลาโน่ สีครีม หมายเลขทะเบียน กม 3388 ลพบุรี จอดอยู่ นอกจากนี้ ยังมีนายสุพจน์ หยั่งถึง อายุ 60 ปี สามีผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งรพ.พัฒนานิคม

จากการสอบถามนายรุ่งเรือง เชื้อสลุง อายุ 66 ปี เพื่อนบ้านเล่าว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นสามีภรรยากัน ได้เช่าพื้นที่ดังกล่าวทำไร่มันสำปะหลังมานานหลายสิบปี ซึ่งช่วงนี้จะอยู่ในช่วงเข้าหน้าฝน ทั้ง 2 คน ได้มาปักต้นมันอยู่ในไร่แห่งนี้ได้ประมาณ 3 วันแล้ว ช่วงเช้าเห็นสองผัวเมียได้มาช่วยกันปักต้นมัน โดยนายสุพจน์ จะทำหน้าที่ขับรถไถ่ทำร่องดิน ส่วนนางแหว๋ ทำหน้าที่ปักต้นมัน

จนกระทั่งมา ช่วงเย็นเริ่มมีพายุฝนมารุนแรง มีเสียงฟ้าคำรามและเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น นายสุจน์ สามี จึงรีบขับรถไถไปเก็บที่บ้าน แล้วเดินกลับมาที่กระท่อมกลางไร่ ปรากฏว่าเห็นเมียนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นดิน ด้วยความตกใจจึงคว้ารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ ขับไปตามญาติให้มาช่วย แต่รถสตาร์ทไม่ติด

นายสุพจน์ จึงตัดสินใจวิ่งลุยข้ามทุ่งไร่มันไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านระยะทางประมาณ 500 เมตร ด้วยความเหนื่อย ทำให้นายสุพจน์หมดแรง แต่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านก่อนเป็นลมหมดสติไป หลังจากนั้นชาวบ้านจึงรีบติดตามมาดูเพื่อช่วยเหลือนางแว๋ว แต่พบว่าได้เสียชีวิตแล้ว

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนลูกสาวผู้เสียชีวิต ได้ข้อมูลด้วยว่านางแว๋ว มีโรคประจำตัวด้วยโรคหัวใจ เพิ่งไปทำบายพาสหัวใจมา ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ช่วงที่นางแว๋วนั่งหลบอยู่ในเพลิงพัก เกิดมีฟ้าผ่าลงมาใกล้ ๆ ที่รถจักรยานยนต์ จนสตาร์ทไม่ติด เป็นเหตุให้หัวใจวายเฉียบพลัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กตำรวจได้มอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่ง รพ.พัฒนานิคมเพื่อผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดลพบุรี ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน