จับเครือข่ายปลอม SMS การไฟฟ้า ส่งลิงก์ดูดเงินหลอกสแกนหน้า เหยื่อสูญกว่า 3 ล้าน

จับเครือข่ายปลอม SMS การไฟฟ้า ส่งลิงก์ดูดเงินหลอกสแกนหน้า เหยื่อสูญกว่า 3 ล้าน

สืบเนื่องจากผู้เสียหายเป็นหญิงรายหนึ่ง อายุ 40 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ได้เดินทางไปติดต่อราชการที่สำนักงานการไฟฟ้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ เมื่อเดินทางกลับถึงบ้านพัก ผู้เสียหายได้รับข้อความ SMS มีเนื้อหาว่า คุณได้รับเงินคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าของการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค PEA ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ www.pea.pears.th.com ผู้เสียหายคิดว่าเป็นข้อความจากการไฟฟ้าจริงเนื่องจากเพิ่งติดต่อกับการไฟฟ้า ณ ที่ทำการมา จึงหลงเชื่อและกดลิงก์ที่แนบมากับ SMS เพื่อเข้าไปในระบบ

จากนั้นผู้เสียหายได้ทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ โดยกรอกชื่อ นามสกุล และเลขบัญชีธนาคารของตนเอง ต่อมาระบบแนะนำให้กรอกรหัส OTP ตามที่ถูกส่งเข้ามายังข้อความในโทรศัพท์ของผู้เสียหายแล้วให้ผู้เสียหายสแกนใบหน้าโดยหันซ้าย หันขวา และอ้าปาก เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนแล้ว ระบบแจ้งว่าผู้เสียหายสามารถไปรับเงินประกันค่ามิเตอร์คืนได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าจังหวัดสุรินทร์

ทันใดนั้นผู้เสียหายสังเกตเห็นข้อความ SMS จากแอปธนาคารของตนเองว่ามีเงินถูกโอนออกจากบัญชี จำนวน 3,205,084 บาท ผู้เสียหายตกใจจึงได้ลองโทรไปสอบถามธนาคารของตน จึงทราบว่าได้มีเงินถูกโอนออกจากบัญชีผู้เสียหายจริง จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเวลาต่อมา

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 จัดเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนกรณีดังกล่าว โดย ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่พร้อมเรียกประชุมชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออำนาจศาลหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้หลายราย

ต่อมาชุดสืบสวนของ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้สืบทราบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับกรณีดังกล่าวกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.สระแก้ว จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมได้จำนวน 2 ราย คือ

1. นางสาวนฤมล อายุ 20 ปี จับกุมตัวได้ที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.1 ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 2. นายปกรณ์ อายุ 26 ปี จับกุมตัวได้ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว

ในความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงเป็นเจ้าพนักงาน,ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการหรือหนี้สินอื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด ร่วมกันทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตนอันเป็นเท็จ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ