
แชร์ประสบการณ์ เข้าพักโฮมสเตย์ ไม่รู้จะพีคอะไรก่อน ร้องห๊ะ! ทุกบรรทัด คะแนนเต็ม10หักหมด!
เรียกได้ว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์เข้าพักโฮมสเตย์ที่ทุลักทุเลพอสมควร ทำเอาชาวเน็ตแห่ถามพิกัดกันรัวๆ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊ค รายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า แชร์ประสบการณ์ เข้าพักโฮมสเตย์ กินปู ดูเหยี่ยว 2วัน1คืน แบบฉบับ คะแนนเต็ม10หักหมด!! ***** เรื่องเริ่มจากเมื่อวันที่ 5 พ.ค ที่ผ่านมา บริษัทของเรามีนัดหมายที่จะพาพนักงานเข้าพักกันที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุรี จำนวนคนเข้าพักของกรุ๊ปเราทั้งหมดประมาณ 66 คน 32 ห้อง ซึ่งตามเวลานัดหมายที่ทางโฮมสเตย์แจ้งมาแต่แรกคือ เราสามารถที่จะเช็คอินที่จุดเช็คอินได้ตั้งแต่เวลา 10.30 น. พร้อมนั่งเรือเข้าที่พักและรับกุญแจเพื่อแยกย้ายไปเก็บของที่ห้องพักก่อน แล้วค่อยออกมาทานมื้อเที่ยงตอนเวลา 12.00 น. วันนั้นคณะเราได้ทำการเช็คอินและเดินทางถึงที่พักในเวลาประมาณ 11.30 น. แต่ทางพนักงานแจ้งว่า "ให้ทางเรารอทานข้าวเที่ยงก่อน เพราะแม่บ้านยังทำความสะอาดห้องพักไม่เสร็จ เดี๋ยวถ้าแม่บ้านทำความสะอาดเสร็จแล้วจะประกาศให้มาเอากุญแจห้องอีกครั้ง"
แต่จนแล้วจนรอดเวลาผ่านไปเกือบ2ชม. ทางพนักงานก็ไม่เรียกให้เราไปรับกุญแจห้องพักซักที จนเราต้องเดินไปถามหลายต่อหลายครั้งว่าห้องพักเสร็จหรือยัง แต่ก็ได้รับคำตอบแบบเดิมว่ายังไม่เสร็จให้รออีกหน่อย ...หน่อยเค้ากับหน่อยเราคงไม่เท่ากัน และเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ทางพนักงานได้เรียกให้เราไปรับกุญแจห้องพักเพื่อแจกให้กับสมาชิก แต่หลังจากที่เราแจกกุญแจกันเรียบร้อยแล้ว แทนที่เราจะเข้าห้องพักกันได้เลย พนักงานกลับบอกว่าเราต้องรอคิวรถรับ-ส่งอีกประมาณ20นาที (รถรับ-ส่งลูกค้า มีแค่คันเดียว!)
และที่ต้องรอรถรับ-ส่งเพราะกรุ๊ปของเราได้ห้องพักอยู่โซนที่ไกลจากจุดทานข้าวมากที่สุด แต่สุดท้ายก็มีสมาชิกบางส่วนต้องจำใจเดินไปที่ห้องพักเองเพราะไม่อยากจะต้องรออีก ...จุดนั้นก็ได้แต่คิดว่ากูรอห้องพักมา2ชม.แล้ว ยังต้องรอคิวรถอีก20นาทีจริงเหรอวะ จนเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ในตอนที่เรายืนรอส่งสมาชิกส่วนที่เหลือขึ้นรถไปที่ห้องพัก ก็มีข้อความส่งมาจากสมาชิกส่วนที่ถึงห้องพักแล้วว่า "ห้องพักจำนวนครึ่งนึงจาก32ห้อง ยังไม่ได้รับการทำความสะอาดจากแม่บ้าน!!" เราเดินเอารูปที่สมาชิกส่งมาไปให้พนักงานฟร้อนท์ดูพร้อมขอคำอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงปล่อยห้องพักมาให้เราทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด? พนักงานฟร้อนท์ได้แต่แจ้งว่า "คิดว่าแม่บ้านทำเสร็จแล้ว" .. คำถามคือเรื่องแบบนี้คุณคิดเองเออเองได้เหรอ ทำงานกันยังไงถึงไม่มีการประสานงาน คิดจะปล่อยห้องให้ลูกค้าก็ปล่อยแบบนี้เหรอ?
ในตอนนั้นเราเริ่มหัวเสียพอสมควร พยายามคาดคั้นเอาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลจากพนักงาน แต่ก็ได้รับแต่คำตอบที่ว่า "หนูไม่รู้จริงๆค่ะ" "จะคุยกับแม่บ้านแต่ยุ่งๆเลยไม่ทันคุย" เหตุการณ์ที่สมาชิกเปิดห้องเข้าไปเจอสภาพห้องที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดยังเคลียร์ไม่ทันจบ ก็มีสมาชิกคนนึงโทรมาหาเราว่า "พี่ไขประตูเปิดห้องเข้าไปแล้วเจอคนนอนอยู่ในห้อง" ใช่ มีคนนอนเปิดแอร์สบายใจอยู่ในห้องพักของ ลูกค้า!! และพอเห็นว่ามีคนไขประตูเข้ามา แทนที่จะรีบอธิบายว่าทำไมถึงมาอยู่ในห้องพักของเรา กลับถามสมาชิกของเราว่า "พวกคุณเข้ามาได้ยังไง ใครบอกให้เข้ามา" ...ได้ยินแล้วงงมั้ย..เออ เป็นใครใครจะไม่งง เราเป็นฝ่ายจ่ายเงินเข้าพัก เป็นฝ่ายได้รับกุญแจมาจากหน้าฟร้อนท์ แต่ได้รับคำถามแบบนี้จากพนักงาน ที่ ณ เวลานั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปนอนในห้องของลูกค้าด้วยซ้ำ (ใช่จ้า คนที่นอนอยู่ในห้องพักเราไม่ใช่ลูกค้าท่านอื่น แต่เป็นพนักงานของทางโฮมสเตย์นั่นแหละ) เราขอคำอธิบายจากพนักงานฟร้อนท์แต่ทางพนักงานปัดให้เราไปคุยกับผู้จัดการของโฮมสเตย์ เราเลยถามผู้จัดการว่าปล่อยให้เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ทางผู้จัดการได้แต่แจ้งว่า "ทางเราเห็นว่าลูกค้ารอเข้าห้องพักที่จุดทานข้าวนานแล้ว เลยอยากให้ลูกค้าได้เข้าไปพักในห้อง แล้วเดี๋ยวแม่บ้านจะตามเข้าไปทำความสะอาดทีหลัง"
มาถึงจุดนี้เรายอมรับว่าเราไม่สามารถข่มอารมณ์ตัวเองได้อีก และได้มีการขึ้นเสียงและโวยวายใส่พนักงานที่เกี่ยวข้องไปพอสมควร ทุกคนคิดว่าเหตุผลที่ผู้จัดการบอกกับเรามันสมเหตุสมผลมั้ย ห้องที่ยังไม่ได้รับการทำความสะอาด สมควรที่จะแจกกุญแจให้แขกเข้าห้องเหรอ....ถามจริ๊ง แล้วส่วนเรื่องที่ทางสมาชิกเราเปิดห้องไปเจอคนนอนอยู่ในห้องนั้น ทางผู้จัดการแจ้งกับเราว่า "ทางเรายืนยันว่าไม่มีแขกคนก่อนหน้าเหลืออยู่ในห้องพักแล้วนะคะ เดี๋ยวจะรีบตรวจสอบให้ค่ะ" ใช่สิก็คนที่อยู่ในห้องพักมันไม่ใช่แขกคนก่อนหน้าแต่เป็นพนักงานของทางโฮมสเตย์เองไงครับบบบ.. เราได้ถามหาการชดเชยและความรับผิดชอบจากทางผู้จัดการ และในตอนแรกผู้จัดการเสนอการชดเชยเป็น "จะเพิ่มเวลาบุฟเฟ่ต์เบียร์จาก1ชั่วโมงครึ่งเป็น2ชั่วโมง"... เรารีบตอบกลับในตอนนั้นทันทีว่า "ไม่โอเค" คุณให้เราเข้าห้องพักช้าไป3ชั่วโมง ไหนจะห้องที่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการทำความสะอาดจนครบทุกห้อง และไหนจะการที่เราเปิดไปเจอพนักงานของคุณนอนอยู่ในห้องพักของเราอีก
ทุกคนคิดว่าแค่การเพิ่มระยะเวลาบุฟเฟ่ต์เบียร์ให้เราครึ่งชั่วโมงนั้นมันเพียงพอแล้วเหรอ.. คุยกันไปคุยกันมาก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ทางผู้จัดการเลยแจ้งว่าให้เราไปรอที่ห้องพักก่อน เดี๋ยวจะขอประชุมสรุปกับทางเจ้าของโฮมสเตย์ว่าจะรับผิดชอบทางเรายังไงได้บ้าง แล้วถ้าสรุปได้แล้วจะโทรแจ้งเราอีกทีนึง ระหว่างที่เรากลับไปรอคำตอบจากผู้จัดการในห้องพัก ผู้จัดการได้โทรมาแจ้งว่า "เรื่องที่เสนอเราว่า จะเพิ่มเวลาบุฟเฟ่ต์เบียร์เมื่อกี๊ ขอระงับไว้ก่อน ยังไม่คอนเฟิร์มนะคะ เดี๋ยวสรุปกับทางเจ้าของยังไงจะแจ้งกลับมาอีกทีค่ะ"
จนมาถึงช่วงทานอาหารเย็นก็ยังไม่มีสายจากผู้จัดการที่บอกว่าจะโทรมาแจ้งว่าตกลงจะชดเชยทางเรายังไงบ้าง เราเดินไปที่จุดรับประทานอาหารพร้อมกับรอว่าจะมีพนักงานคนไหนเดินมาคุยหรือชี้แจงเกี่ยวกับการชดเชยบ้างมั้ย แต่ก็ไม่มีโผล่มาซักคน..
พอทานอาหารเสร็จ เราต้องเดินเข้าไปตามเรื่องการชดเชยจากผู้จัดการเอง ซึ่งได้รับคำตอบกลับมาว่า "ได้ประชุมทุกฝ่ายแล้ว ทางที่พักเราไม่สามารถชดเชยอะไรให้ได้เลยนอกจากข้อเสนอเดิมที่บอกกับเราเมื่อตอนบ่าย คือเพิ่มเวลาบุฟเฟ่ต์เบียร์อีกครึ่งชั่วโมง..." ณ เวลานั้นตอนที่เรารู้ว่าทางโฮมสเตย์จะชดเชยให้เราด้วยการเพิ่มเวลาบุฟเฟ่ต์เบียร์ สมาชิกในกรุ๊ปของเราส่วนใหญ่ได้ทานอาหารกันเสร็จและแยกย้ายกันกลับห้องพักเรียบร้อยแล้ว ก็คือสรุปได้ว่าถ้าเราไม่เดินไปถาม ทางผู้จัดการและทางโฮมสเตย์ก็คงจะปล่อยเบลอ ไม่ชดเชยและรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
เพราะถ้าตั้งใจจะรับผิดชอบจริงๆไม่ว่าการชดเชยจะมีแค่ขยายเวลาบุฟเฟ่ต์เบียร์หรืออย่างอื่นเพิ่มเติม ก็ควรที่จะต้องโทรมาแจ้งตามที่บอกกับเราไว้ หรือถ้าไม่โทรก็ควรจะต้องเดินมาแจ้งเราในตอนที่เรามาถึงจุดกินข้าวแล้ว นี่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างเรื่องน้ำดื่มที่ขอแล้วขออีก ขอยังไงก็ยังได้รับไม่ครบทุกห้อง แอร์ที่ห่างไกลเหลือเกินจากคำว่าเย็น ทีวีที่แขวนไว้ให้เราเกิดคำถามในใจว่าจะเอามาแขวนทำไมเพราะมันดูไม่ได้ อาหารที่กินแล้วสมาชิกกรุ๊ปเรา90%กลับบ้านมาท้องเสียกันถ้วนหน้า
และวันสุดท้ายยังมีหน้ามาขอให้เรารีบเช็คเอ้าท์เพราะต้องเตรียมรับลูกค้ากรุ๊ปถัดไป ถึงตรงนี้แล้ว มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน ใครอยากลองไปพักจะพกความสวยไปอย่างเดียวไม่ได้ ต้องสวย50 ดวง50 เท่านั้น! บางคนอาจจะได้รับความรู้สึกดีๆกลับไป แต่กับเราชีวิตนี้ทั้งชีวิตจะไม่ไปเหยียบอีก ขอบคุณทางโฮมสเตย์ที่สร้างความเดือดดาลและเหลืออดให้กับทางเราจนนาทีสุดท้าย พวกเราจะจำทริปท่องเที่ยวประจำปีทริปนี้แบบไม่รู้ลืม.. และจนเฮือกสุดท้ายของชีวิตก็จะกระซิบเบาๆออกมาว่า... "หนีไป"