เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 8 พ.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปลาม้า ได้รับแจ้งเหตุยิงกันหน้าร้านค้าในตลาดมะขามล้ม ต.มะขามล้ม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยเณรแก้วทางหลวงสุพรรณบุรี

ที่เกิดเหตุพบกองเลือดบริเวณโต๊ะหินหน้าร้านค้า และกลุ่มเพื่อนที่ยังอยู่ในอาการตกใจ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.เจ้าพระยายมราช แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นายสุรเชษ อายุ 34 ปี จากการตรวจสอบ พบกระสุนปืน ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 นัด และปลอกกระสุนปืน 7 นัด อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุ

จากการสอบถามนายธนาคาร เพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนและผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยเพื่อนๆ ได้มานั่งดื่มสุรากันที่โต๊ะหินหน้าร้านค้าประมาณ 4-5 คน จากนั้นก็เห็นกลุ่มคนยิงนั่งดื่มสุราอยู่ฝั่งตรงข้าม จู่ๆ คนยิงก็เข้ามาทักกับผู้เสียชีวิต 1 รอบ ก่อนขับรถออกไปและกลับมาอีกรอบ

คนยิงยังเข้ามาคุยยังมาชนแก้วกัน แล้วจู่ๆ ก็คว้าปืนในกระเป๋ามาจ่อยิงศีรษะผู้เสียชีวิตจนล้มลง ตนจึงได้เข้าไปยื้อแย่งปืนกันพักใหญ่ ก่อนที่คนยิงจะวิ่งหลบหนีไป แล้วมีรถกระบะมารับ สำหรับสาเหตุตนก็พอทราบมาว่า ผู้เสียชีวิตเคยมีปัญหากับคนยิงมาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เคยทะเลาะวิวาทกัน ปัญหาส่วนตัว ซึ่งตนก็ไม่คิดว่า จะมายิงกันขนาดนี้

ทางด้าน นายพงศกร เอื้อเฟื้อเจ้าหน้าที่กู้ภัยเณรแก้วทางหลวงสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ตนและทีมกู้ภัยได้เข้ามาถึงจุดเกิดเหตุ โดยที่เห็นบาดแผลที่ศีรษะ มีรอยการถูกยิงและเสียเลือดมาก จึงได้ทำการ CPR เบื้องต้น จากนั้นจึงรีบนำตัวส่งรพ.เจ้าพระยายมราช อย่างเร่งด่วน แต่ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว

ต่อมา เวลา 03.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางปลาม้า ได้ติดตามเบาะแสของผู้ก่อเหตุ จนสามารถจับกุมได้แล้ว หลังจากทราบว่า จะไปหาพ่อที่ป่วย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่รพ.บางปลาม้า จึงได้นำกำลังตามเข้าไปจับกุมที่รพ.ทันที พร้อมกับนำตัวมาสอบสวนที่สภ.บางปลาม้า ทราบชื่อต่อมาคือนายธรรมพร หรือเบนซ์ อายุ 29 ปี

โดย นายธรรมพร ให้การรับสารภาพว่า ที่ทำไปเพราะมีความแค้นส่วนตัว ที่เคยถูกผู้เสียชีวิตรุมทำร้ายตนเมื่อ 10 กว่าปีก่อน สมัยวัยรุ่น จนทำให้ตนฟันหัก เลยแค้นใจ พอนึกถึงทีไร ก็รู้สึกแค้นใจทุกที และผู้เสียชีวิตชอบเอาเรื่องนี้ไปพูดกับคนอื่น ทำให้ตนไม่พอใจ เคยวิวาทกันมาแล้ว จนได้มาเจอตัวจึงโมโห และลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป