เปิดปฏิบัติการ แกะรอย แก๊งฉ้อโกงออนไลน์ข้ามชาติ ยึดทรัพย์สินนำตรวจสอบได้กว่า 5 ล้านบาท

เปิดปฏิบัติการ แกะรอย แก๊งฉ้อโกงออนไลน์ข้ามชาติ ยึดทรัพย์สินนำตรวจสอบได้กว่า 5 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นนำโดย ร่วมกันตรวจค้น บ้านพัก ม.4 ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นของศาลจังหวัดพระประแดงที่ ค.38/2567 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2567

ผลการตรวจค้น ยึดสิ่งของเพื่อตรวจสอบ 8 รายการ ได้แก่ 1. โทรศัพท์ยี่ห้อ Apple รุ่น iPhone 15 Pro max จำนวน 1 เครื่อง 2. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 5 เล่ม 3. บัตรกดเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 4 ใบ 4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD SC PACKAGE จำนวน 1 คัน 5. โทรศัพท์ยี่ห้อ Samsung รุ่น Galaxy Z Flip5 จำนวน 1 เครื่อง 6. ธนบัตรไทย ใบละ 1,000 บาท จำนวน 80 ฉบับ รวมมูลค่ากว่า 80,000 บาท 7. ธนบัตรมาเลเซีย ใบละ 100 ริงกิต จำนวน 100 ฉบับ รวมมูลค่ากว่า 76,200 บาท 8. ธนบัตรมาเลเซีย ใบละ 50 ริงกิต จำนวน 260 ฉบับ รวมมูลค่ากว่า 99,060 บาท

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 06.50 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้ดำเนินการเปิดปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ในการขยายผลเพื่อติดตามหาพยานหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงถึงกลุ่มผู้จ้างวาน กลุ่มผู้จัดหาบัญชีม้า เพื่อใช้สำหรับการฉ้อโกงออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊กที่ชักชวนให้ลงทุนในหุ้นไทยและต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชันปลอมชื่อ Nicshare ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ "CIB breaks up online scam syndicate" เพื่อสกัดกั้นภัยอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติที่มีผู้เสียหายหลายรายตกเป็นเหยื่อ

ในการปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.3 บก.ปอศ. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพระประแดงเพื่อขออนุมัติหมายค้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดพระประแดงที่ ค.38/2567 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เข้าทำการตรวจค้น บ้านพัก ม.4 ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจค้นพบ นางสาวกนกพรฯ (ขอสงวนนามสกุล) แสดงตนเป็นผู้พักอาศัยภายในบ้านดังกล่าวและเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจค้น ผลการตรวจค้นได้ยึดได้สิ่งของหลายรายการ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, บัญชีธนาคาร 5 บัญชี, บัตรกดเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ 4 ใบ, กระเป๋าแบรนด์เนม, รถยนต์หรูยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด 1 คัน และธนบัตรไทยและมาเลเซีย รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท ไว้เพื่อทำการตรวจสอบ

นางสาวกนกพรฯ ให้การว่าทรัพย์สินเหล่านี้ได้มาจากนางสาวมาร์ตินฯ (นามสมมติ) แฟนสาวชาวมาเลเซียที่รู้จักกันขณะทำงานในมาเลเซีย ซึ่งได้เข้ามาทำความรู้จักสนิทสนมกับตน จนกระทั่งคบหาดูใจกันได้ประมาณ 2 - 3 ปี จึงได้นำทรัพย์สินฝากไว้กับตนเพื่อเก็บรักษา ต่อมาตนได้รับชักชวนให้ทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลด้วยกัน ตนจึงตัดสินใจลาออกจากงานมาอยู่บ้าน โดยรับผลประโยชน์จากธุรกิจดังกล่าวตลอดมา ในระหว่างที่คบกัน น.ส.มาร์ตินฯ ซื้อสินค้าแบรนด์เนมหรู และฝากสิ่งของมีค่า ตลอดจนรถยนต์หรู ไว้กับ น.ส.กนกพรฯ เก็บรักษาไว้ในบ้านตามสถานที่ตรวจค้น

จากข้อเท็จจริงนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งขยายผลต่อเพื่อตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินทั้งหมดว่ามีความเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดหรือไม่ หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับการหลอกลงทุนออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามปฏิบัติการ Anti Online Scam (AOC) ตามนโยบายของศูนย์ AOC

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ฝากเตือนภัย ประชาชนทุกท่านควรระมัดระวังเมื่อต้องตัดสินใจลงทุนออนไลน์กับแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ หากพบเห็นหรือสงสัยว่าถูกชักชวนให้ลงทุนในโครงการที่มีลักษณะสุ่มเสี่ยงหรือผิดปกติ กรุณาตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด และแจ้งเหตุทันทีที่มีความสงสัยเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ