สลด! ลุงขับรถจะไปรดน้ำต้นทุเรียน เสียหลักตกเหวลึกจมน้ำเสียชีวิตคาที่

สลด! ลุงขับรถจะไปรดน้ำต้นทุเรียน เสียหลักตกเหวลึกจมน้ำเสียชีวิตคาที่

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาสัก ได้รับแจ้งมีรถยนต์กระบะบรรทุกแท็งก์น้ำพลาสติกขนาด 2 พันลิตร เสียหลักพลิกคว่ำตกเขา บริเวณพื้นที่ หมู่ 7 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร มีผู้ติดอยู่ภายในรถ 1 คน จึงได้รุดเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับหน่วยกู้ภัยสายชล เขตเขาทะลุ

ที่เกิดเหตุอยู่ในถนนซอยห้วยใหญ่ ห่างจากถนนสายเขาค่าย (ชุมพร) - ละอุ่น (ระนอง) ประมาณ 2 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นลูกรังกว้างเพียง 5 เมตร โดยถนนดังกล่าวชาวบ้านช่วยกันเทคอนกรีตทำเป็นร่องเฉพาะรองรับล้อรถเท่านั้น เนื่องจากถนนสายนี้สภาพต้องขับขึ้นที่สูงชัน ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันทำเพื่อป้องกันไม่ให้รถที่วิ่งเข้ามาในสวน จะได้ไม่ลื่นเวลามีฝนตกลงมา

โดยริมถนนด้านขวามือเป็นเหวลึก ประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่พบร่องรอยต้นไม้ขนาดเล็กใหญ่ข้างทางพังราบเป็นแนวยาวลงไป และพบรถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บล 3103 ชุมพร สภาพพลิกหงายท้องอยู่ในน้ำลึกกว่า 3 เมตร ข้างๆ รถ มีแท็งก์พลาสติกใส่น้ำขนาด 2 พันลิตร และอุปกรณ์ ต่างๆ ลอยเกลื่อนอยู่ในน้ำ

ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ทราบชื่อภายหลังคือ นายจรงค์ ชำนิหอม อายุ 67 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 7 ต.เขาค่าย อ.สวี ซึ่งชาวบ้านในละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ ได้ช่วยกันนำตัวผู้ขับขี่รถยนต์คนดังกล่าวออกมาจากรถในสภาพหมดสติ และได้พยายามช่วยทำ CPR แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม นายสุทิน เชื้อวงษ์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยสายชล เขตเขาทะลุ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้เกิดเหตุรถพลิกคว่ำตกเหวแล้วจมในน้ำ บริเวณถนนซอยห้วยใหญ่ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพกู้ภัย ไปยังที่เกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึงก็พบว่ามีชาวบ้าน หลายคนได้นำตัวผู้ที่ติดอยู่ภายในออกมาจากรถแล้ว และกำลังช่วยกันทำ CPR ช่วยชีวิต แต่ก็ไม่สำเร็จ ตนเองจึงได้นำร่าง ส่ง รพ.สวี เพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพอย่างละเอียดต่อไป

ทางด้าน นางสีนวล คนคล่อง อายุ 47 ปี ลูกสะใภ้ผู้เสียชีวิต เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ตั้งแต่ อ.สวี ได้เกิดวิกฤตฝนขาดช่วงประสบภัยแล้งอย่างหนักมานานกว่า 2 เดือน ทำให้ในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ต้องนำรถยนต์กระบะบรรทุกแท็งก์น้ำ เพื่อไปหาดูดน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ ที่มีในพื้นที่ เพื่อจะนำมารถต้นทุเรียนทุกวันพ่อและลูกๆ ก็จะระดมรถออกไปบรรทุกน้ำมาใส่สระในสวนเพื่อเก็บไว้รดทุเรียนในช่วงค่ำ

ทุกวันในช่วงเช้า พ่อก็จะขับรถบรรทุกแท้งน้ำลาสติกขนาดใหญ่ ออกจากสวนเพื่อไปบรรทุกน้ำมาใส่เก็บไว้ในสระ โดยวันเกิดเหตุก็เพิ่งจะได้น้ำมาเพียงเที่ยวเดียว และเมื่อพ่อถ่ายน้ำลงสระแล้ว ก็ได้ขับรถออกไปจะบรรทุกน้ำอีกเที่ยว แต่เที่ยวนี้ผิดสังเกตมากเพราะพ่อไปนานมาก จนกระทั่งญาติโทรศัพท์มาบอกว่ารถพ่อเสียหลักตกเหวจมน้ำและเสียชีวิตแล้ว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พยานหลักฐานการเกิดเหตุจากกล้องหน้ารถของญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งได้ขับรถยนต์กระบะไปบรรทุกน้ำมาเช่นกัน และได้ขับตามหลังรถผู้เสียชีวิตมาห่างไม่มากนัก พบว่าขณะที่รถของผู้เสียชีวิต ขับรถซึ่งบรรทุกน้ำมาเต็มแท็งก์ 2 พันลิตร ขับมาในถนนซอยห้วยใหญ่

ได้ขับเบี่ยงหลบก้อนหินที่โผล่ขึ้นมาอย่างช้าๆ แต่เป็นช่วงเดียวที่รถซึ่งได้ขับชิดริมถนนเกินไป ทำให้รถที่หนักล้อรถที่กดดินเกิดยุบและเลื่อนตัว ส่งผลให้รถเสียหลักพลิกคว่ำลงไหล่ทาง ก่อนรถจะพลิกหงายท้องจมน้ำ และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาได้ทัน จนเสียชีวิตดังกล่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ