หลานสุดทรพี พ่อแม่แยกทางกัน ยายเลยเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก โตขึ้นขอเงิน 20 บาทไม่ได้ คว้าจอบทุบยายดับคาไร่มัน
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สว.(สอบสวน) สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายในไร่มันสำปะหลัง พื้นที่บ้านหนองแสง หมู่ 5 ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์ รพ.โพนสวรรค์ ตำรวจชุดสืบสวน พิสูจน์หลักฐานจังหวัด และกู้ชีพ อบต.นาหัวบ่อ
ที่เกิดเหตุเป็นไร่มันสำปะหลัง เนื้อที่ 3 ไร่เศษ ริมถนน ทางหลวงชนบท 4036 สายดอนถ่อน-นาชุม หลังบ้านไม้ยกสูง เข้าไปประมาณ 100 เมตร พบศพนางใย อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน สภาพนอนหงายจมกองเลือด บาดแผลฉกรรจ์เหนือคิ้วซ้าย เลือดอาบใบหน้า ใกล้กันยังพบจอบขนาดยาว 1.5 เมตร เปื้อนเลือด ซึ่งอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ และเสียมยาว 1.5 เมตร รองเท้าแตะ 1 คู่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องของผู้เสียชีวิตตกอยู่ จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้น ทราบว่า คนร้ายคือนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี เป็นหลานชายของผู้เสียชีวิตเอง หลังก่อเหตุได้เดินออกมาจากจุดเกิดเหตุ อย่างไม่สะทกสะท้าน ชาวบ้านได้จับกุมตัวไว้ ก่อนแจ้งให้ตำรวจชุดสืบสวนมารีบควบคุมตัวไป เนื่องจากหวั่นว่าชาวบ้านที่ทราบเรื่อง รวมถึงญาติพี่น้องที่กำลังเดินทางมา หากเจอจะไม่พอใจฮือรุมประชาทัณฑ์
ทางด้าน ลูกชายผู้เสียชีวิต อายุ 35 ปี ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุตนนำก้อนยางพาราไปขายในหมู่บ้าน เพื่อจะนำเงินมาให้แม่ไว้ใช้จ่ายภายในครอบครัว ขณะกลับมาถึงบ้านพบความผิดสังเกตว่า กระบือที่เลี้ยงไว้ยังเดินวนไม่เข้าคอก เรียกหาแม่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเดินออกตามหาไปทั่วไร่มันนานกว่า 10 นาที กระทั่งมาพบร่างแม่นอนเสียชีวิตคาไร่มัน ส่วนนายเอ หลานชายรายนี้ พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่แบเบาะ แม่ตนเลยนำมาเลี้ยงไว้ แต่ไม่ได้เรียนหนังสือ แถมยังติดยาเสพติดจนมีอาการคลั่ง จนต้องกินยาผู้ป่วยจิตเวช
เคยหายตัวไปแล้วครั้งหนึ่ง ตนและญาติออกตามไปพบตัวที่ อ.ท่าอุเทน หลังกลับมาอยู่บ้านได้เพียง 2 เดือน มักจะขอเงินไปซื้อยาเสพ ทุกครั้ง หากแม่ไม่ให้ก็จะทุบตีเตะต่อยตามร่างกายจนได้รับบาดเจ็บมาโดยตลอด ครั้งนี้ก็เหมืองเดิมมาขอเงินอีก 20 บาท ขณะแม่กำลังปลูกมันสำปะหลัง อ้างเพื่อไปซื้อเครื่องดื่ม แต่แม่รู้เลย บอกว่าไม่มีเงินให้ คาดว่าทำให้ไม่พอใจ จึงคว้าจอบทุบที่ศีรษะแม่จนเสียชีวิต เบื้องต้น เจ้าหน้าที่นำตัวส่งดำเนินคดีพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป