เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 15 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แจ้ซ้อน จ.ลำปาง ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณซอยข้างวัดสีหลวง ต.แจ้ซ้อน ซึ่งมีการจัดงานบุญในเทศกาลสงกรานต์ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยชุดสืบสวนและหน่วยกู้ภัยแจ้ซ้อน

โดยที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 15 ปี ถูกอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงเข้าที่ต้นแขนซ้าย 1 นัดกระสุนฝังใน กู้ภัยนำส่ง รพ.เมืองปาน และถูกนำตัวส่งต่อที่รพ.ศูนย์ลำปาง ทำการผ่าตัดเป็นการด่วน ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่น เป็นลูกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของ สภ.แจ้ซ้อน อายุประมาณ 15 ปีหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นได้ทะเลาะวิวาทกันในซอยดังกล่าว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงกลุ่มวัยรุ่นก็ได้หนีไป จากนั้นชายอายุประมาณ 15 ปีได้ขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คน เมื่อมาถึงที่บริเวณหน้างานได้ชะลอรถ ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะควักปืนออกมากระหน่ำยิงไปในงานประมาณ 6-7 นัดแล้วก็หลบหนีไป ทำให้กระสุนได้ไปถูกคนเจ็บขณะที่เดินมาที่รถจยย.เพื่อที่จะกลับบ้าน

แต่เนื่องจากจากชายคนที่ก่อเหตุคาดว่าเป็นลูกคนมีสี ทำให้ชาวบ้านเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงพากันมารวมตัวที่บริเวณหน้างานและรอฟังคำตอบจากตำรวจว่าจะจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้หรือไม่ และหลังจากนั้น ชาวบ้านจำนวนมากได้เดินทางไปรวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรมที่ สภ.แจ้ซ้อน ด้วยความตรึงเครียด

ต่อมา ทาง พ.ต.อ.คมสันต์ สอาดล้วน รอง.ผบก.ตำรวรภูธรลำปาง ได้ลงพื้นที่ออมาพูดคุยรับปากกับชาวบ้านว่า ขณะนี้ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้แล้ว ต่อไปก็เป็นขั้นตอนของการสอบสวน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า คนก่อเหตุอาจจะนำอาวุธปืนของพ่อซึ่งเป็นตำรวจ มาก่อเหตุยิงกราดใส่ในงานบุญที่มีคนมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูตรหลักฐาน 5 ลำปาง ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเป็นปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. และยังพบรอยเลือดตกพื้นอีก

ด้าน นายชาติ อภิรักษ์วงค์ อายุ 49 ปี พ่อคนเจ็บ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวมาเที่ยวงานดังกล่าว ซึ่งเป็นงานที่ชาวบ้านช่วยกันจัดผ้าป่าเพื่อจะถวายวัดระหว่างที่ลูกสาวกำลังเดินมาที่รถจักรยานยนต์ เพื่อจะพาหลานสาววัย 4 ขวบ กลับบ้าน ก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝัน ลูกชายนายตำรวจก็กระหน่ำปืนยิงปืนหลายนัด ทำให้กระสุนพลาดไปถูกที่แขนลูกสาวตนเองได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่หลานสาววัย 4 ขวบที่มาด้วยไม่โดนลูกหลง