รวบคลังแสงเด็กช่างยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 28 กระบอก รับทำส่งขายมา 1,000 กระบอก
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ชัยยุทธ ศักดิ์เพชร ร.ต.อ.ปรินทร์ ส่วนบุญ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว 1.นายศราวุฒิ หรือเอ อายุ 23 ปี ภูมิลำเนา ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ จ.91/2566 ลงวันที่ 15 มี.ค. 66 ข้อหา เป็นทหารกองเกิน ซึ่งถูกกำหนดให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการได้รับหมายนัดของนายอำเภอแล้วแต่ไม่มาตามนัด หลีกเลี่ยงหรือขัดขืนเพื่อจะไม่ให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ 2.นายข (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 ม.5 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
โดยทั้ง 2 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต
ตรวจยึดของกลาง จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย 1.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 28 กระบอก 2.กระสุนปืน 1,559 นัด 3.ลำกล้องปืนรอขึ้นรูป 28 ลำ 4.เข็มแทงชนวน 30 ชิ้น 5.อุปกรณ์ส่วนควบและอุปกรณ์การผลิตปืนอีกจำนวนมาก โดย ตรวจค้นและจับกุมได้ที่ อาคารพาณิชย์ไม่มีเลขที่ ริมถนนเกษมราษฎร์ ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
พฤติการณ์กล่าวคือ คลังแสงเด็กช่าง เพจเฟสบุ๊คที่ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนจนเป็นที่เลื่องลือในวงการและเป็นขวัญใจนักช็อปปืนโดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนอาชีวะ-ช่างกล โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนขยายผลจากการจับกุมซุ้มโจร “ทางเดินเสือ” ที่ย่านหนองจอกเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา จนสืบทราบว่ามีแหล่งผลิตอาวุธปืนเถื่อนอยู่ละแวกเมืองแปดริ้วที่คอยจัดส่งปืนเถื่อนให้กับหมู่วัยรุ่นมานับไม่ถ้วนทั่วประเทศ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงส่งชุดสืบสวนนครบาลลงพื้นที่สืบสวนจนได้เบาะแสว่าตัวตนของเพจ คลังแสงเด็กช่าง อาจจะมีแหล่งผลิตปืนเถื่อนที่ใกล้กับแม่น้ำบางปะกงในจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นเบาะแสสุดท้ายที่ชุดสืบสวนมี ซึ่งยังคงเบาบางเกินไป เป็นเวลา 48 ชั่วโมง ที่ชุดสืบนครบาลวนเวียนอยู่ในเมืองแปดริ้ว จนสืบทราบว่าโรงงานนรกที่ใช้ผลิตอาวุธปืนส่งขายนั้น อยู่ในอาคารพาณิชย์ร้างริมถนนใกล้ตัวเมืองฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงนำกำลังบุกงัดประตูเข้าตรวจค้นในอาคาร เจ้าหน้าที่บุกขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของตัวอาคาร ได้พบกับผู้ต้องหา 2 คน (เป็นพี่น้องกัน) กำลังนั่งผลิตปืนอยู่และพบของกลางอาวุธปืน , เครื่องกระสุน , อุปกรณ์ส่วนควบ และ เครื่องมือการผลิตอีกจำนวนมาก จึงทำการจับกุมตัวทั้ง 2 คาเขียงในทันที ซึ่งจากการขยายผลเป็นที่น่าตกใจเพราะว่าพี่น้องคู่นี้ขายปืนมาแล้วนับพันกระบอก
ในชั้นจับกุม นายศราวุฒิฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเองจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไม่ได้เรียนเกี่ยวกับช่างใดๆ ที่เริ่มเข้าสู่วงการนี้เพราะตนเองพอจะมีทักษะจากการครูพักลักจำมา จึงนำมาลองทำแล้วปรากฏว่ารายได้ดี จนตัดสินใจทำเป็นอาชีพหลัก โดยเป็นขายผ่านทางเพจชื่อว่า คลังแสงเด็กช่าง ยอมรับว่าทำขายแบบนี้มาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งเครติดของตนนั้นดีมากจนมียาในวงการว่า ตาแสง และในปัจจุบันก็มีคนไปปลอมเป็นเพจคลังแสงเด็กช่างเลียนแบบตนเป็นจำนวนมาก ซึ้งล้วนหลอกลวงไม่ส่งจริง แต่ตนเองนั้นคือตัวจริงส่งจริง ซึ่งช่วงหลังมีการหยุดขายไปบางช่วงเพราะมีคนเตือนว่าชื่อเสียงตนนั้นเริ่มโด่งดังแล้วน่าจะมีตำรวจมาติดตามจับกุม ซึ่งตนเองเป็น FC เพจสืบนครบาลคอยดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยลึกๆก็รู้ว่าสักวันคงถูกตามจับ ส่วนปืนที่ขายไปนั้นหากคนนำไปก่อเหตุร้ายนั้นตนเองยอมรับในเวรกรรมที่จะเกิด เพราะตนเลือกเส้นทางสายนี้แล้วต้องรับให้ได้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ให้การภาคเสธ
หลังจับกุมตัว ชุดสืบสวนนำตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากการขยายผลพบว่าคนร้ายมีการขายอาวุธปืนเถื่อนไปแล้วจำนวนมาก เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด อาวุธปืนเถื่อนเป็นสิ่งอันตรายต่อผู้อื่น ทำให้ประชาชนทุกคนอยู่ในอาการหวาดกลัว เพราะเป็นจุดเริ่มต้นในอาชญากรรมที่รุนแรง มีผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ประชาชนทุกคนต้องเป็นหูเป็นตา คอยสอดส่อง ดูแล เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมแล้ว จะขยายผลกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำจัดอาวุธแนเถื่อนให้สิ้นซาก ผมจึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ว่าหากพบเห็นการซื้อขายปืนเถื่อนหรืออาวุธในโลกออนไลน์และหากท่านทราบเบาะแสโปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน