เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 9 เมษายน 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ระบุว่า น้องบี (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 11 ปี เรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงคาน จ.เลย ถูกครูประจำชั้นผู้ชายเมาเหล้ากระทำอนาจาร โอบกอด ใช้นิ้วกับลูกสาวของตนเอง แถมยังโดน ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง และรอง ผอ.เขต ขอเจรจายอมเยียวยาให้จบเรื่อง แต่ทางครอบครัวไม่ยอม ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด

โดย นางเอ เล่าว่า มีเพื่อนบ้านนำคลิปวีดีโอลูกสาว ถูกนายภาสกร (ขอสงวนนามสกุล) ครูสอน ชั้น ป.4 กระทำอนาจารในบ้านพักของครู ที่อยู่ห่างจากบ้านของตนเองไม่ถึง 200 เมตร 3 - 4 ครั้ง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2566 แต่คลิปเพิ่งมาหลุดเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2567 พอตนเองทราบข่าวจึงได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความกับ พงส.เชียงคาน

แต่ว่ามี ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็น 1 ในคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สปพ.เลย เขต 1 มาขอเจรจาให้เงิน 200,000 บาท รับเงินดีกว่า ดีกว่าไปกรีดยางรับจ้าง ถ้าไม่พอใจ 300,000 บาท รับได้ไหมหรือพูดมาว่าจะเรียกร้องเท่าไหร่ และยังมีคนรู้จักกันมาขอให้จบเรื่อง 300,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีรอง ผอ.เขต โทรมาขอให้จบเรื่องและจะช่วยเหลือเยียว แต่ตนเองถึงจนก็มีศักดิ์ศรีไม่ยอมรับเงิน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ในขณะที่ นางซี (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี เป็นป้าของน้องบี เล่าว่า หลังทราบข่าว มี ผอ.โรงเรียน และผอ.เขต โทรมาขอไกล่เกลี่ย ยอมเยียวยาให้ 300,000 บาท ให้จบเรื่อง แต่ทางครอบครัวไม่ยอม พร้อมกับย้อนถามกลับไปว่าถ้าเป็นลูกสาวคุณโดนกระทำแบบนี้จะยอมหรือไม่

จากนั้นครอบครัวผู้เสียหาย ได้เดินทางไปพบ พ.ต.อ.สันติ ชูเชิด ผกก.สภ.เชียงคาน เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมในเบื้องต้น โดย พ.ต.อ.สันติ ชูเชิด ผกก.สภ.เชียงคาน รอพบอยู่ เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำครูคนดังกล่าว ซึ่งยอมรับสารภาพว่ากระทำจริง และไม่ได้หลบหนีไปไหน ส่วนที่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะอยู่ระหว่างรอผลตรวจจากแพทย์

ส่วนผู้เสียหายเป็นเด็ก ต้องประสานทีมสหวิชาชีพมาสอบปากคำเด็ก ทางพนักงานสอบสวนไม่สามารถสอบปากคำเด็กได้เอง จากนั้นก็จะแจ้งข้อกล่าวหาครูคนดังกล่าวทันที ซึ่งทางครอบครัวผู้เสียหายไม่ต้องกังวล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการอยู่ ส่วนที่ทางครอบครัวกังวลว่าถูกฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาโทรมาข่มขู่นั้น จะให้ทางสายตรวจเข้าไปดูแล ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้