วิธีแก้ปัญหา สแกนหน้าบัตรคนจนไม่ผ่าน ทำตามนี้
นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนเมษายน 2567 จะได้รับสิทธิ ดังนี้
วันที่ 1 เมษายน 2567 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 ก.พ. - 26 มี.ค. 2567 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 เม.ย. 2567 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง
วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (เม.ย. - มิ.ย. 2567)
วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ
วันที่ 19 เมษายน 2567
เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน : สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 ก.พ. - 26 มี.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว
วิธีแก้ไขปัญหาสแกนหน้าไม่ผ่าน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลาง ได้ชีแจงเหตุผลที่ต้องสแกนใบหน้า ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ว่า เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำวงเงินสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้สิทธิโดยไม่ได้รับความยินยอม เนื่องจาก กรมบัญชีกลาง ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานคลังในหลายจังหวัด ได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นจำนวนมาก
และวงเงินดังกล่าว ถูกนำไปใช้บริการขนส่งสาธารณะเอกชน ข้ามพื้นที่หรือต่างจังหวัดทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเดินทางไปยังที่ตั้งข้ามจังหวัดที่ตั้งร้านค้า โดยวงเงินดังกล่าวถูกนำไปใช้ค่าสินค้าร่วมโครงการด้วยลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ด้วยแอปฯถุงเงินกว่า 3 แสนกว่ารายการ ทำให้ผู้มีสิทธิเดือดร้อน
และย้ำว่า ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้สูงอายุ สามารถมอบอำนาจให้ดำเนินการแทนได้
ส่วนเหตุผลที่สแกนไม่ผ่านนั้น ทำให้ต้องคืนสินค้า สาเหตุเกิดจากขั้นตอนจากการสแกน ชี้แจงว่า อาจจะเกิดจากมีแสงสว่างมากเกินไป ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหา ที่ไม่สามารถสแกนใบหน้าผู้มีสิทธิได้ ขอให้ร้านค้าดำเนินการดังนี้
1.ขอให้ผู้มีสิทธิ ยืนตำแหน่งของร้านค้า ที่มีแสงสว่างเหมาะสม ไม่ยืนย้อนแสง ไม่มีเงาตกกระทบบนใบหน้า
2.ให้ผู้มีสิทธิถอดแว่นตา หมวก หน้ากากอนามัยออก เก็บผมไว้หลังใบหูขณะทำรายการ
3.ให้ใบหน้าผู้มีสิทธิอยู่ในกรอบ มองตรง ไม่เอียงศีรษะ ไม่ขยับหน้าไปมา
ผู้มีสิทธิจะต้องเก็บรักษาบัตรประชาชน และรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก ไว้ในที่ที่ปลอดภัย