วันที่ 4 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า สืบเนื่องมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยเริ่มจากมีมิจฉาชีพทักเฟซบุ๊กก่อน จากนั้นได้ขอเป็นเพื่อนทางไลน์ และวอทส์แอป ตามลำดับ โดยหลอกให้ผู้เสียหายช่วยโอนเงินไปยังอีกบัญชีหนึ่งที่ประเทศจีน จำนวน 100,000 ดอลล่าร์ โดยส่งลิงก์ให้กดเข้าไปดำเนินการตามขั้นตอน จากนั้นผู้เสียหายดำเนินการตามที่มิจฉาชีพอ้าง โดยโอนครั้งแรกจำนวน 50,000 ดอลล่าร์ จากนั้นจะโอนอีก 50,000 ดอลล่าร์ แต่ไม่สามารถโอนได้ เนื่องจากหน้าจอโทรศัพท์ดับ จึงบอกผู้ร้ายว่าพรุ่งนี้จะดำเนินการให้ใหม่อีกครั้ง

จากนั้นผู้เสียหายจึงไปสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าไม่ทราบระบบการโอนเงินดังกล่าว หลังจากนั้นมิจฉาชีพติดต่อกลับมาให้ผู้เสียหายสนทนากับมิจฉาชีพอีกคน ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารประเทศจีน โดยให้ผู้เสียโอนเงินเพื่อปิดบัญชี จำนวน 204,000 บาท เพื่อจะนำเงินที่เหลือในบัญชีของคนร้ายออกมาได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไป มิจฉาชีพก็ยังอ้างเหตุผลชักชวนให้ผู้เสียหายเข้ามาร่วมลงทุนเกี่ยวกับเครื่องจักรโรงงานอุตสาหกรรม โดยถ้าหากโอนเงินมาอีก 1,030,450 บาท ภายใน 3 ชม. จะได้เงินค่าตอบแทน 50,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนไปให้ หลังจากนั้นผู้เสียหายยังได้โอนเงินไปให้ผู้ร้ายอีกหลายครั้ง รวมความเสียหายทั้งสิ้น จำนวน 5,269,450 บาท

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งดำเนินการสืบสวน ประสานงานกับธนาคารและตรวจสอบเส้นทางการเงิน จนทราบชื่อเจ้าของบัญชีปลายทางที่ผู้เสียหายโอนเงินไป 2 ราย จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับจากศาล

ต่อมา พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคระห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม รอง ผกก.ฯ, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์, พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ สว.ฯ เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 ราย ดังนี้

1. น.ส.ทัชรีฯ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี จับกุมตัวได้ขณะยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จว.ชลบุรี 2. น.ส.ทิพวรรณ อายุ 49 ปี ชาวจังหวัดตราด จับกุมตัวได้ขณะยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.วังกระแจะ อ.เมืองตราด จว.ตราด

เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยการลวงหรือแสดงตนเป็นบุคคลอื่น,ร่วมกันโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จทั้งหมดหรือบางส่วน โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน