
เหิมเกริมหนัก แก๊งค์ลิงยกพวกดักปล้นกลางเมือง
วันที่ 31 มีนาคม 2567 ได้มีรถไฟขบวนยาว ขาขึ้นผ่านเมืองลิง รถทุกคันต้องหยุดสองฝั่ง เป็นจังหวะที่รถกระบะได้บรรทุกมะม่วงน้ำดอกไม้สุกจำนวน 2 เข่ง มะม่วงเขียวเสวยคัดเกรดอีกจำนวน 2 เข่ง ติดรถไฟ ลิงหน้าโรงภาพยนตร์มาลัยรามาได้ส่งเสียงสัญญานที่ดี ให้ลิงปรางค์สามยอด ลิงตึกฝั่งตรงข้ามรู้ เมื่อรถกระบะบรรทุกมะม่วงจอดสนิท เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ มะม่วงจำนวน 4 เข่งใหญ่ ถูกลิงน้อยใหญ่แย่งเอาไปจนเกือบหมด ผู้สื่อข่าวได้ตะโกนบอกมีอะไรที่พอไล่ได้ไหม และไล่ช่วยแต่ไม่เป็นผลเพราะลิงไม่กลัวคว้าไปตัวละลูกสองลูก จนรถไฟเคลื่อนขบวนผ่าน รถกระบะบรรทุกมะม่วงได้รีบออกตัวเพื่อผ่านศาลพระกาฬ ลิงที่จ้องอยู่แล้วกระโดดเกาะคว้ามะม่วงไปจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือสักลูกเดียว
เจ้าของมะม่วงกล่าวว่านี่มันการปล้นกันชัดๆ รู้ว่าผ่านแล้วมีลิงแต่ไม่คิดว่าจะมาเสียท่าเพราะติดรถไฟ เมียบอกให้รีบเอามะม่วงไปส่งตลาดนัดด่วนเลยไม่ได้หาอะไรคลุมจนเป็นเหตุให้มะม่วง 4 เข่งหายวับไปกับตา ไม่โทษใครโทษตัวเองที่สะเพร่า ต้องฝากหน่วยต่อต้านลิง นำตัวหัวโจกมาลงโทษให้ที นี่เท่ากับว่าเย้ยตำรวจหน่วยต่อต้านลิง ดักปล้นกลางวันแสกๆ แบบชนิดหวานเจี๊ยบ หวานเจี๊ยกๆๆ เลย
เท่านั้นยังไม่ดักปล้นรถมะม่วงเสร็จ ลิงฝูงใหญ่กระโดดขึ้นรถเก๋งหรูชะเง้อดูในรถที่มาจอดในที่ห้ามจอด เมื่อมองเห็นของกินในรถเท่านั้นเอง มันก็งัด ก็ดึง ก็แทะ ก็กัดเพื่อจะเอาของในรถให้ได้ ผู้สื่อข่าวต้องช่วยไล่ จนเกือบเป็นเหตุกระทบกระทั่ง ลิงมองตาขวาง ร้องขู่เมื่อขัดจังหวะ ผู้สื่อข่าวช่องหนึ่งที่ลืมไปว่าลิงกำลังโกรธ ได้ยื่นไมค์เพื่อสัมภาษณ์ และถามแทงใจดำจะไปอยู่สวนลิงไหม ไอ้จ๋อไม่รอช้าคว้าไมค์ หัวไมค์กระโดดขึ้นเสาไฟฟ้านั่งกัดแทะให้เห็นเป็นขวัญตาว่าทีหลังอย่าถามคำนี้
เรียบเรียง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ลพบุรี