ผัวสังหารโหดฝังเมียร่วมปี แสร้งออกมาคุยกับเมียกลางดึก ญาติแอบไปเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ สุดท้ายถูกจับได้
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นายเสกสรร สาระรัชต์ อายุ 44 ปี ชาวบ้าน ตำบลโคกตูม อำเภอเมืองลพบุรี ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ. โคกตูมว่า น.ส. สุนันทา นันท้าว อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นพี่สาว ได้ขาดการติดต่อ หายออกจากบ้านไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561 หลังจากได้รับแจ้ง พันตำรวจตรีปริญญา แสงวรราช สารวัตรสอบสวน สภ.โคกตูม พร้อมเจ้าหน้าที่งานสืบสวน สภ.โคกตูม ได้ลงพื้นที่หาข่าว เริ่มต้นที่บ้านเลขที่ 108 ต.นิคมสร้างตนเอง ปากทางเข้าวัดหนองถ้ำ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้สูญหายและสามี
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึง พบนายไพบูลย์ จาดภักดี อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 /3 หมู่ที่ 6 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง ลพบุรี ซึ่งเป็นสามีผู้สูญหาย มีพิรุธได้วิ่งหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ นำไปสอบสวนที่ สภ.โคกตูม นานกว่า 3 ชั่วโมง จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุสังหาร น.ส. สุนันทา ภรรยาตนเอง และได้นำศพ ฝังดินไว้ที่ข้างบ้าน ซึ่งเหตุเกิด ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมารวมระยะเวลาเกือบ 8 เดือน
หลังจากนั้น พ.ต.อ.นิวัฒน์ การสิทธิ์ ผกก.สภ.โคกตูม , ร.ต.อ.คัชรัส โสมนัส พนักงานสอบสวน สภ.โคกตูม ได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ลพบุรี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว โดยมีนายไพบูรณ์ จาดภักดี สามีชี้จุด โดยจุดที่แจ้งไม่มีร่องรอยการขุดคุ้ยเหลืออยู่ จึงได้นำรถแบคโฮมาทำการขุด หลุมกว้างประมาณ 80 ซม. ลึกประมาณ 1 เมตร ผ่านไปประมาณ 15 นาที
กระทั่ง พบถุงผ้าห่อร่าง น.ส.สุนันทา จึงได้นำขึ้นมาเพื่อชันสูตร พบว่าร่างเน่าเปื่อยไปหมดแล้ว เหลือเพียงโครงกระดูกเศษเนื้อติดอยู่เล็กน้อย จากการชันสูตรเบื้องต้นพบที่ศีรษะแตกเป็นรูหลายจุด โดยมีนายไพบูรณ์ยืนให้การโดยไม่สะทกสะท้านใด ๆ หลังจากชี้จุดฝังศพ ตำรวจได้รีบนำตัวนายไพบูรณ์สามีโหดไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.โคกตูม เกรงจะถูกรุมประชาทัณฑ์
ด้าน พ.ต.อ.นิวัฒน์ การสิทธิ์ ผกก.ได้ทำการสอบสวนนายไพบูรณ์ด้วยตนเอง ซึ่งนายไพบูรณ์สามีโหด ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยรับสารภาพว่า ตนเองเคยมีภรรยามาแล้วถึง 4 คน เลิกรากันไปหมด และหอบสมบัติที่มี และจากสินสมรสจากภรรยาเก่านับแสนบาท มาปรนเปรอความสุขกับ น.ส.สุนันทา ฉันผัวเมีย เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี
ความรักแรกหวานชื่น ตามใจกันทุกอย่าง แต่ไม่มีลูกด้วยกัน ระยะหลังเมียรักทำตัวเหลวไหล ชอบดื่มเหล้า ติดยาบ้า และมักหาเรื่องทะเลาะกันประจำ ซึ่งตนเองพยายามข่มใจมาตลอดระยะเวลา จนเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2566 วันเกิดเหตุ น.ส.สุนันทา เมียรักได้เอ่ยปากขอแยกทางกับตน อ้างเพราะไม่มีเงิน จะไปหาสามีใหม่ จนทะเลาะถึงขั้นตบตีกัน น.ส.สุนันทาสู้ไม่ได้ได้ใช้มีด ใช้เคียวเป็นอาวุธจะทำร้ายตน พร้อมตะโกนว่า จะไปมีผัวใหม่ ซ้ำ ๆ ซึ่งเป็นคำพูดที่แทงใจดำตน ทนไม่ได้กับคำนี้ จึงได้ใช้ค้อนกระหน่ำตีที่ศีรษะ น.ส.สุนันทา ด้วยความโมโห และนับครั้งไม่ถ้วน จนเสียชีวิต
หลังจากสังหารเมียเสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น. ของวันที่ 1 ส.ค. 66 ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตได้ออกไปทำบุญในวันเข้าพรรษากันหมด ตนเองก็ยังว้าวุ่นว่าจะทำเช่นไรกับศพเมีย คิดอยู่นานจนเย็น จึงได้นำศพใส่ถุงผ้า ก่อนขุดหลุมฝังร่างเมียไว้ที่ข้างบ้าน และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พยายามถามหาเมียตนเองจากญาติดโดยที่ไม่มีใครสงสัยนานเกือบ 8 เดือน จนน้องเมียไปแจ้งความที่โรงพัก ตำรวจมาหาจนพิรุธยอมเปิดปาก และรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ช่วงที่ฝังร่างภรรยาไปแล้ว ทำทีออกตามหาทุกวัน ตกดึกยังนำสุรา อาหารมานั่งกินบนหลุมศพของภรรยา ทำทีว่าเสียใจที่เมียรักหายไป จนที่สุดได้มีญาติเมียแอบดูตอนดึกสงัด กับพฤติการณ์นายไพบูรณ์พี่เขย ที่ชอบออกมาตอนตี 2-3 มาเคาะตรงพื้นดิน เทเหล้า ตักข้าววางที่พื้นตรงหลุมฝังศพ พูดพร่ำขอโทษกล่าวรู้สึกเสียใจกับการกระทำที่พี่ลงมือไปโดยไม่ได้ยังคิด หากชาติหน้ามีจริงขอมาเป็นผัวเมียกันอีก จนเกิดความสงสัยได้เข้าแจ้งความกับตำรวจตามพฤติกรรมที่สงสัย จนสมารถรวบตัวพี่เขยได้รับกรรมที่ก่อ