วันที่ 29 มี.ค.2567 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้หารือถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประกาศอัตราชดเชย

โดยมีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินกองทุนประเภทน้ำมันดีเซลให้สอดคล้องกับราคาตลาดโลกมากขึ้น ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศเกิน 30 บาท/ลิตรได้ ตั้งแต่เดือนเม.ย.2567 เป็นต้นไป โดยการปรับอัตราเงินกองทุนในกลุ่มน้ำมันดีเซล กบน. จะพิจารณาถึงข้อมูลต่างๆ ตามความเหมาะสมของช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและการบริหารจัดการของผู้ค้าน้ำมันมากจนเกินไป ทั้งนี้ ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 31 มี.ค.-1 เม.ย.2567 ยังไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน เนื่องจากมาตรการขยายเวลาลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน ที่กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังร่วมกันบริหารจัดการราคาขายปลีก

โดยใช้กลไกการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ตามที่ครม. เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2566 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. จะสิ้นสุดลงวันที่ 31 มี.ค.2567 ประกอบกับปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง 104.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เฉลี่ยช่วงวันที่ 1 – 20 มี.ค.2567) “กบน.จะนำข้อมูลต่างๆ ที่มีผลต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิง มาพิจารณาร่วมกับแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2563-2567 ทุกครั้งที่มีการปรับอัตราเงินกองทุนในประเภทน้ำมันดีเซล

ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้จะช่วยให้สภาพคล่องของกองทุนปรับตัวดีขึ้น เพื่อสามารถใช้กองทุนเป็นเครื่องมือรองรับกับสถานการณ์วิกฤตราคาน้ำมันที่ผันผวนอย่างต่อเนื่อง สกนช.จะประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อหารือในเรื่องอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่อไป

สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 24 มี.ค.2567 ติดลบ 98,220 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 51,136 ล้านบาท ส่วนก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) ติดลบ 47,084 ล้านบาท นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจากกระทรวงพลังงานได้ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยเฉพาะค่าน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนของสินค้าและบริการ โดยตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่เดือนก.ย.2566 เป็นต้นมา ซึ่งบางช่วงราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงเคยสูงถึง 45 บาท/ลิตร ทำให้ปัจจุบันกองทุนซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเป็นหนี้ใกล้ 1 แสนบาทแล้ว

ดังนั้น เพื่อไม่ให้กองทุนมีภาระหนี้มากเกินไป และรักษาสภาพคล่องและความเชื่อมั่นของกองทุน กระทรวงพลังงานจะนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมครม. พิจารณาเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนไปพร้อมกับการลดภาระหนี้ของกองทุน แต่หากไม่มีงบประมาณจากส่วนอื่นเข้ามาช่วย เช่น งบกลาง หรือ การลดอัตราภาษีสรรพสามิต เบื้องต้นคาดว่ากองทุนจะต้องปรับลดอัตราการชดเชยราคาน้ำมันลง 1-2 บาท/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น เพื่อมิให้เป็นภาระกับประชาชนมากเกินไป

จึงจะปรับลดการชดเชยราคาน้ำมันดีเซแบบขั้นบันได โดยปัจจุบันมีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 4.17 บาท/ลิตร คิดเป็นจำนวนเงินที่กองทุนฯ ต้องจ่ายประมาณ 8,700 ล้านบาทต่อเดือน จึงขอให้ประชาชนเข้าใจในสถานการณ์ ณ เวลานี้ด้วย นายวีรพัฒน์ กล่าว