เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในขณะนี้ หลังสื่อต่างประเทศได้รายงานว่า นายจาง และนายหวัง เป็นเพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัย พวกเขาควักเงินออกมาคนละ 10 หยวน (ประมาณ 50 บาท) ซื้อตั๋วลอตเตอรีกีฬา 2 ใบ โดยนายหวังเป็นคนเก็บตั๋วทั้งหมดไว้เพื่อความปลอดภัย

สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ ตั๋วลอตเตอรีใบหนึ่งถูกรางวัลใหญ่ มีเงินรางวัลรวม 220,000 หยวน (มากกว่า 1 ล้านบาท) หลังหักภาษีแล้วคุณจะได้รับเงินรางวัลมากกว่า 180,000 หยวน (มากกว่า 9 แสนบาท)

หลังจากทราบว่าพวกเขาได้รับรางวัล ทั้งสองครอบครัวตกลงที่จะไปที่ซานตงเพื่อรับรางวัลด้วยกัน จากนั้นจึงหารือเกี่ยวกับวิธีการแบ่งรางวัล อย่างไรก็ดี จู่ๆ ทางครอบครัวของนายหวังก็แอบไปรับเงินรางวัลทั้งหมด โดยไม่แจ้งให้ครอบครัวของนายจางทราบ เมื่อรู้ทีหลังจึงโกรธมาก อีกทั้งยังโต้เถียงกันอย่างหาข้อยุติไม่ได้ จนสุดท้ายต้องฟ้องศาล

เมื่อเขาปรากฏตัวในศาล นายหวังอ้างว่า แม้พวกเขาจะร่วมกันซื้อตั๋วลอตเตอรี่ แต่ไม่มีข้อตกลงที่จะแบ่งรางวัลอย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งยังอ้างว่าตั๋วลอตเตอรีที่ถูกรางวัลเป็นการลงทุนของเขาเอง เพราะเขาได้โอนเงิน 10 หยวนคืนเข้าบัญชีของอีกฝ่ายในวันนั้นแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องแบ่งรางวัลเท่าๆ กันกับนายจาง

หลังจากการพิจารณาคดี ศาลชี้ให้เห็นว่าคนทั้งสองไปร้านลอตเตอรีด้วยกัน แต่นายหวัง มอบหมาย ให้นายจางจ่ายเงินซื้อมัน แทนการซื้อเอง ซึ่งขัดต่อสามัญสำนึกอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น จึงตัดสินว่าตั๋วลอตเตอรีทั้งสองใบถูก ซื้อร่วมกันโดยคนสองคน และกรรมสิทธิ์เป็นของทั้งสองฝ่ายร่วมกัน

เนื่องจากทั้งสองคนลงทุน 10 หยวน โบนัสที่ชนะจะต้องแบ่งตามอัตราส่วนการลงทุนด้วย นั่นคือ คนละครึ่ง สุดท้ายตัดสินให้นายหวังจะต้องจ่ายเงินให้กับนายจาง 90,000 หยวน (ประมาณ 4.6 แสนบาท)