กัน จอมพลัง บุกลำปาง ช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 14 เหยื่อพ่อเลี้ยงขืนใจ จนท้อง 5 เดือน หลังแม่ไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์
เมื่อเวลา10.30 น. วันที่ 21 มีนาคม 2567 กัน จอมพลัง พร้อมทีมงาน ได้เข้าพบ พ.ต.อ.กฤษฎา พงษ์สุวรรณ ผกก.สภ.เกาะคา ร่วมประชุมวางแผนกับหน่วยงาน พม.ลำปาง บ้านพักเด็กลำปาง ที่จะเข้าช่วยเหลือ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี หลังจากนางไก่ (นามสมมุติ) อายุ 30 กว่าปี ซึ่งทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ประเทศกัมพูชา ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือ จาก กัน จอมพลัง ว่า ลูกสาวของตัวเอง ซึ่งอาศัยอยู่พื้นที่ของลำปาง ถูกสามี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ขืนใจลูกสาว จนตั้งท้องได้ 5 เดือน พร้อมทั้งได้ส่งหลักฐานข้อความไลน์ที่คุยกับสามี
ซึ่งหลังจากมีการประชุมวางแผนกันเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ จึงรีบเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในตำบลนาแก้ว อ.เกาะคา จาก.ลำปาง พบนายชัชดากร อายุ 35 ปี เป็นพ่อเลี้ยง อยู่ในบ้าน ในห้องนอนพบเด็กหญิงเอ โดยมีชาวบ้านมามุงดูในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ได้ชี้แจงเหตุต่าง ๆ ที่เดินทางมาในครั้งนี้ ว่า ทาง กัน จอมพลัง ได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือ ในการนำกำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าช่วยเหลือ ลูกสาวในบ้านพักหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก และ พม.จังหวัด ได้นำตัวเด็กหญิงเอ ขึ้นรถยนต์ ออกจากบ้านหลังดังกล่าวเพื่อรับไปดูแลทันที
ส่วนนายชัชดากร ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้นยอมรับว่าได้กระทำชำเราลูกเลี้ยงจริง จนท้องได้ประมาณ 5 เดือน โดยทางญาติของตนเอง รวมถึงภรรยา ซึ่งเป็นแม่ของเด็กหญิงเอ รับทราบเรื่องราวทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจปัสสาวะในร่างกายผลเป็นลบ ก่อนที่จะนำตัวไปสอบสวนปากคำที่ สภ.เกาะคา
จากการสอบถามนางแก้ว อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นอาของนายชัชดากร เล่าว่า เมื่อเดือนสิงหาคม 66 ทั้งสามคนพ่อแม่ลูก เดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ มาขออาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว จนถึงเดือนพฤศจิกายน ฝ่ายแม่ได้ไปทำงานที่จังหวัดสระแก้ว ปล่อยให้ลูกสาวของตนเอง อาศัยนอนในห้องเดียวกันกับสามี ไม่กลับมาอีกเลยจนถึงวันนี้ คนแถวบ้านต่างทราบกันดีว่า นายชัชดากร กับเด็กหญิงเอ มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา จนตั้งท้อง ซึ่งทางอาของนายชัชดากร ก็ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก แต่ก็ไม่อยากที่จะยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ทั้งสองคนก็เห็นว่ารักกันดี กอดหอมแก้มกันเป็นประจำ
ทางด้านนายกัน จอมพลัง ได้เปิดเผยว่า ตนเองได้รับร้องขอความช่วยเหลือจากหญิงรายหนึ่ง เป็นคุณแม่ ทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ทิ้งลูกสาวอายุ 14 ปี ให้อยู่กับสามีของตนเอง ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ถูกพ่อเลี้ยงกระทำชำเราจนตั้งท้องได้ 5 เดือน และพ่อเลี้ยงใช้ลูกสาวเป็นเครื่องมือ โดยบังคับให้แม่โอนเงินมาให้ ถ้าหากเอาเรื่องดังกล่าวไปแจ้งตำรวจ จะโพสต์ประจานว่าให้เด็กหญิงเอ ท้องไม่มีพ่อ และที่สำคัญได้ตัดช่องทางในการติดต่อระหว่างแม่กับลูกสาวอีกด้วย
จึงเป็นห่วงและกลัวว่าสามีจะเอาลูกสาวไปทำอย่างอื่น และยังอ้างว่า แม่ทำอะไรเขาไม่ได้เพราะว่าได้จดทะเบียนสมรถกับลูกสาวแล้ว โดยมีผู้ใหญ่รับรอง จึงมีการตั้งคำถามว่า เรื่องแบบนี้มันทำได้หรือไม่ ตนเองทราบจึงต้องรีบช่วยเหลือ ซึ่งพ่อเลี้ยงไม่มีความรับิดชอบ เมื่อแม่ฝากลูกสาวไว้กับพ่อเลี้ยงแต่กลับไปกระทำชำเรา จนตั้งท้อง
ในเรื่องนี้ ตนเองได้รับเรื่องขอความช่วยเหลือแล้ว จึงได้ประสาน รมต.กระทรวง พม. ผู้บังคับการตำรวจภูธรลำปาง เข้าช่วยเหลือ ส่วนหลักฐานที่เป็นสลิปโอนเงิน ที่แม่โอนให้พ่อเลี้ยง ที่ข่มขู่เอาเงิน รวมแล้วหลายหมื่นบาท และยังมีหลักฐานเป็นใบรับฝากครรภ์ ที่ระบุผู้เป็นสามี อายุ 35 ปี ก็คือนายชัชดากร นั่นเอง
ในส่วนของคนที่เป็นแม่ ทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ต่างประเทศ หากจะกลับเมืองไทยก็ต้องมีเงินประกันตัวเองให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ถึงจะกลับประเทศไทยได้ ซึ่งแม่ไปเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ที่หลอกคนอื่น ไม่สามารถที่จะกลับมาช่วยลูกได้ มันก็เป็นเวรกรรมที่คุณไปหลอกคนอื่นเช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องดำเนินคดีแตกต่างกันไป ส่วนน้องไม่ผิด เราต้องรีบช่วยหากทิ้งน้องไว้สังคมมันจะวิปริตกันไป
ส่วนข้อกล่าวหาที่นายชัชดากร จะต้องถูกดำเนินคดีนั้น คือ มาตรา 277 ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึง 20 ปีและปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 400,000 บาท ส่วนข้อหาอื่นๆ นั้น ต้องรอการสอบสวนปากคำเด็ก และนายชีชดากร อีกครั้ง