ชาวนาไทยเฮ ราคาข้าว พุ่งสูงในรอบ 16 ปี
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ชาวนาใน ต.นางลือ อ.เมืองชัยนาท เร่งเกี่ยวข้าวเพื่อนำไปขายให้กับสหกรณ์รับซื้อข้าวในพื้นที่ ช่วงนี้ข้าวราคาดี ขายได้ที่ตันละ 10,500 -11,000 บาท เมื่อเทียบกับต้นทุน ยังพอมีเงินเหลือ จึงมีแผนที่จะปลูกข้าวรอบใหม่ต่อเนื่อง แม้ว่าจะเริ่มแล้ง
นายสราวุฒ สุรโภคา พนักงานตรวจรับข้าวเปลือกของสหกรณ์รับซื้อข้าว จ.ชัยนาท กล่าวว่าราคารับซื้อข้าวเป็นไปตามกลไกตลาด และขึ้นกับความชื้น เช่น ข้าว กข.41 ความชื้นร้อยละ 15 รับซื้อตันละ 12,000 บาท แต่หากความชื้นร้อยละ 25 อยู่ที่ตันละ 10,200 บาท
ด้านนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรกรไทย ระบุว่า ราคาข้าวที่ชาวนาขายได้ในขณะนื้ ถือว่าดีที่สุดในรอบ 16 ปี และเป็นราคาที่สูงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว จากเดิมที่ชาวนาขายข้าวได้ตันละไม่ถึง 10,000 บาท แต่ขณะนี้พุ่งไปตันละหมื่นกว่าบาท ราคาข้าวที่สูง ก็ทำให้เกษตรกร ทำนาปรังเต็มพื้นที่
กรมการค้าภายใน รายงานราคาข้าวเปลือกทุกชนิด ปรับตัวสูงขึ้น โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ความชื้นร้อยละ 15 อยู่ที่ตันละ 14,850 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 12,300 บาท นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า ราคาข้าวปีนี้ ยังเป็นปีทองสำหรับเกษตรกรไทย เพราะภัยแล้งทำให้ความต้องการข้าวมากขึ้น เช่น อินโดนีเซีย ผลผลิตในประเทศที่ลดลงจากเดิมต้องการนำเข้า 2,000,000 ตัน เพิ่มเป็น 3,600,000 ตัน ส่วนอินเดียยังคงระงับการส่งออกข้าวต่อเนื่อง
สำหรับราคาข้าวขาวร้อยละ 5 อยู่ที่ 615-620 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ใกล้เคียงเวียดนามที่ตันละ 605-610 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไทยแข่งขันได้ คาดว่าช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้จะส่งออกได้ 2,500,000 ตัน และทั้งปี คาดว่าจะส่งออกได้เกินเป้าหมายที่ 7,500,000 ตัน