นายศรรัก มาลัยทอง หัวหน้าศูนย์ประสานงานภาคประชาชน จ.ปทุมธานี กล่าวว่าจากกรณีที่ รองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้มีหนังสือด่วนที่สุด คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพรบ.นิรโทษกรรมสภาผู้แทนราษฎร ถึงนายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมป์ เพื่อตั้งเป็นที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้มีมติตั้งนายวิเชียร ชุบไธสงเป็นที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิโทษกรรมนั้น

ซึ่งเรื่องการแต่งตั้งในครั้งนี้ตนเองเห็นด้วยเพราะประชาชนนั้นต่างรอคอยมานานไล่มาตั้งแต่ปี 2553 ประชาชนบ้างคนยังติดคุกกันอยู่โดยเฉพาะนักการเมืองที่ยังถูกดำเนินคดและถูกคาดโทษซึ่งคดีต่างๆนั้นเกิดจากคดทางการเมืองทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกมาแล้วจึงอยากจะให้มีการช่างโทษทั้งหมดให้กับพี่น้องประชาชนที่มีคดีเกี่ยวกับทางการเมืองทุกสีทุกกลุ่มทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นสีไหนก็ตามโดยเฉพาะนักการเมืองก็ตามเราจะต้องล้างให้กับเขาด้วย และที่สำคัญคือต้องมีการล้างมลทินให้กับเขาเราต้องอย่าลืมนะว่าบุคคลเหล่านี้บ้างคนเขามีความรู้ความสามารถแต่ก็มาโดนคดีทางการเมือง ซึ่งคดีทางการเมืองนั้นล้วนแล้วเกิดมาจากการทำรัฐประหารทั้งสิ้นแล้วก็ไปชี้ผิดๆเอาไว้ก็เหมือนเด็กรุ่นใหม่นี้ที่มีความรู้ความสามารถที่จะนำพาประเทศชาติให้เดินไปข้างหน้าได้แต่ต้องมาติดล็อกตรงนี้จึงไปไหนไม่ได้

ดังนั้นตนเองจึงอยากจะให้มีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเร็วเพราะพี่น้องประชาชนนั้นต่างรอคอยกันมานาน 10 กว่าปีแล้วเหมือนกับที่ตนเองถูกดำเนินคดีทางการเมืองแต่ตนเองก็ได้นับโทษติดคุกจนพ้นโทษมาแล้วซึ่งบุคคลเหล่านี้เขาต้องการกลับมาเป็นผู้บริสุทธิ์อีกครั้งเพื่อที่บุคคลเหล่านี้จะได้นำความรู้ความสามารถที่มีอยู่นำไปพัฒนาประเทศชาติจึงฝากทุกฝ่ายที่เห็นต่างควรคำนึงถึงประเทศชาติอย่าออกมาติติงเรื่องดังกล่าวนี้เลยเพื่อให้ประเทศชาติได้เดินต่อไปได้

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน