ครูอนุบาลเรียกแม่มาเตือนตรง ๆ อย่าให้ลูกสาวใส่ กระโปรง มาโรงเรียน เผย 2 เหตุผลฟังแล้วต้องยอมรับ (ตปท.)
ความรักของพ่อแม่มักจะแสดงออกมาในหลายด้าน ทั้งการยอมทำงานหนักเพื่อซื้ออาหารดี ๆ เสื้อผ้าสวย ๆ ให้กับลูกใส่อยู่เสมอ แต่เมื่อจะเลือกเสื้อผ้าให้ลูกสวมใส่ อย่าลืมคำนึงถึงภาพรวมและคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกมาเป็นอันดับแรก ยิ่งเข้าสู่วัยเรียนแล้วด้วย ยิ่งต้องดูเรื่องเสื้อผ้าให้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากเด็กในวัยช่วงอนุบาลไปยังประถม มีกิจกรรมให้ทำมาก เพราะฉะนั้น อย่าให้เรื่องเสื้อผ้ามาหยุดการเล่นของเด็ก ๆ ได้
ดังเช่นกับเรื่องของคุณแม่รายหนึ่งในประเทศเวียดนาม ที่ถูกนำมานำเสนอผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศ tintuconline เผยว่าคุณแม่รายนี้มีฐานะทางการเงินของครอบครัวดีมาก อีกทั้งยังมีลูกสาวเพียงคนเดียว อยู่ในวัยเตรียมอนุบาล เธอจึงชอบแต่งตัวให้ลูกสาวเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย สวมชุดไม่ซ้ำ 7 วันต่อสัปดาห์ ทุกคนรอบตัวต่างชื่นชมความน่ารักน่าเอ็นดูของหนูน้อย นั่นยิ่งทำให้คุณแม่รู้สึกมีความสุขและภูมิใจเป็นอย่างมาก
วันหนึ่งขณะที่คุณแม่พาลูกไปเดินเล่นที่ศูนย์การค้า ตั้งใจจะหาซื้อสุดสวย ๆ ให้ แต่น่าแปลกที่ลูกสาวของเธอ ซึ่งมักจะชอบสวมชุดเดรสกลับบอกแม่ว่า แม่คะ ขอใส่กางเกงขายาวได้ไหม เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นของลูกสาว แม้จะสับสนเล็กน้อย แต่เมื่อคุณลูกขอ คุณแม่ก็ตอบตกลง บอกว่าลูกสาวสามารถใส่กางเกงได้ในช่วงสุดสัปดาห์ และลูกสาวของเธอก็พอใจมาก
กระทั่งต่อมา ครูประจำชั้นของลูกได้พูดคุยกับคุณแม่ท่านนี้ ซึ่งคุณครูแนะนำว่า ไม่ควรให้ลูกสวมกระโปรงไปโรงเรียนเป็นดีที่สุด เพราะเมื่อเด็ก ๆ เล่นในโรงเรียนอนุบาลไม่เพียงแต่จะทำให้ทำกิจกรรมไม่สะดวก และอาจเกิดความเสี่ยงอันตรายทางร่างกายเท่านั้น แต่ที่มากกว่านั้น คือเมื่อเด็กไม่สามารถกางแขนและขา เพื่อเล่นกับเพื่อน ๆ ได้อย่างสบาย ๆ และอาจเกิดภาวะซึมเศร้าได้ด้วย
โดยครูท่านนี้ได้หยิบยกตัวอย่างจากเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากมีเด็กอนุบาลคนหนึ่งที่สวมกระโปรงมาโรงเรียน และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยขณะเล่นสไลเดอร์ ทั้งนี้ มีของเล่นและความบันเทิงมากมายในโรงเรียนอนุบาล เมื่อเด็กสวมกระโปรงอาจมีแนวโน้มที่จะสะดุดล้ม เท่านั้นยังไม่พอ กระโปรงยังช่วยปกป้องขาได้ไม่ดีนัก ดังนั้น การบาดเจ็บจึงอาจรุนแรงมากขึ้น
ส่วนอีกกรณีก็คือ เมื่อเด็ก ๆ เข้าแถวออกไปข้างนอก ครูจะให้เด็กที่อยู่ข้างหลังจับมุมเสื้อของเด็กข้างหน้า เพื่อไม่ให้เด็กล้มหรือหลงทาง แต่ถ้าเด็กใส่กระโปรงมาอาจจะเขินอายเมื่อเพื่อนดึงชุดสูงขึ้น แม้ว่าเด็กก่อนวัยเรียนจะไม่ได้มีความตระหนักรู้ทางด้านเพศมากนักก็ตาม แต่ทว่าก็ควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนแบบนี้่เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น คุณแม่จึงลองมาพูดคุยกับลูกสาว และก็ตระหนักได้ว่าขณะเข้าแถวเล่นสนามเด็กเล่น เด็กชายที่อยู่ข้างหลังจับชุดกระโปรงของลูกสาวไว้ แล้วบังเอิญยกขึ้นสูงจนถูกเด็กคนอื่นหัวเราะเยาะ ทำให้ลูกสาวไม่อยากใส่กระโปรงไปโรงเรียนอีกต่อไป และในที่สุดผู้เป็นแม่ก็เข้าใจได้ว่า ไม่ว่าจะเพื่อความปลอดภัยหรือเพื่อประสบการณ์ของลูกสาว การให้เธอใส่กางเกงในโรงเรียนอนุบาล ก็ปลอดภัยและสะดวกกว่าใส่กระโปรงมากกว่าจริง ๆ
ข้อมูล tintuconline
เรียบเรียง siamnews