กวาดล้างอาวุธเถื่อนออนไลน์ ของกลางอื้อ
วันศุกร์ที่ 8 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า ณ ห้องประชุมชั้น 3 บก.สอท.2 (เมืองทองธานี) บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ ตํารวจที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวปฏิบัติการ Cyber Guard II กรณี ตํารวจไซเบอร์กวาดล้างปืนเถื่อน ออนไลน์ ของกลางอาวุธปืน 44 กระบอก กระสุนกว่า 3,678 นัด
เจ้าหน้าที่ตํารวจเร่งดําเนิน มาตรการเชิงรุกของโครงการ Cyber Guard ในการสอดส่องเฝ้าระวังการกระทําความผิดทุกรูปแบบผ่าน แพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะกรณีการซื้อขายอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อป้องกันอาชญากรรม ก่อนเกิดเหตุ ยับยั้งไม่ให้นําอาวุธปืนไปก่อเหตุอาชญากรรมที่ร้ายแรง สร้างความเสียหายต่อชีวิตทรัพย์สิน ประชาชน โดยในห้วงเดือน กุมภาพันธ์ 2567 มีผลการระดมกวาดล้างจับกุม ผู้ต้องหา จํานวน 37 คน ตรวจยึดของกลางอาวุธปืนมีทะเบียนจํานวน 9 กระบอก อาวุธปืนไม่มีทะเบียน จํานวน 35 กระบอก กระสุนปืน 3,035 นัด และกระสุนปืนอาวุธสงคราม 625 นัด โดยมีการจับกุมคดีสําคัญที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ทลายเครือข่ายค้าปืนออนไลน์ผ่าน YouTube รวบผ้ต้องหาพร้อมของกลางจํานวน 5 ราย โดย กก.4 บก.สอท.2 นําโดย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 สืบสวนพบว่ามีการลักลอบจําหน่ายอาวุธปืนไทย ประดิษฐ์ดัดแปลง และเครื่องกระสุนปืน ผ่าน YouTube จึงได้ทําการสืบสวนจนทราบว่ามีการซื้อขายผ่าน กลุ่มลับของแอปพลิเคชัน LINE ที่มีจํานวนสมาชิกนับหลายร้อยคน และจากข้อมูลพบว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ ต้องสงสัยที่กระทําผิดหลายราย จึงได้สืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องจนสามารถดําเนินการตรวจค้นจับกุมได้ จํานวน 5 ราย ดังนี้
1) วันที่ 8 ก.พ.67 ตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จับกุมนายธัญญเรศ อายุ 25 ปี พร้อมของกลางปืนไทยประดิษฐ์จํานวน 2 กระบอก และกระสุนปืน 265 นัด
2) วันที่ 16 ก.พ.67 ตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ ม.7 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จับกุมนายธนณัท อายุ 43 ปี พร้อมของกลางปืนส้ันกึ่งอัตโนมัติมีทะเบียน จํานวน 1 กระบอก กระสุนปืน 13 นัด
3) วันที่ 20 ก.พ.67 ตรวจค้นบ้านพัก ในซอยรังสิตนครนายก 33 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จับกุม นายภาราดา อายุ 23 ปี พร้อมของกลางปืนพกสั้นแบบประดิษฐ์เอง (แบลงก์กัน) ขนาด .380 จํานวน 1 กระบอก, ซองบรรจุกระสุน 2 อัน และกระสุนปืนขนาด .380 จํานวน 12 นัด
4) วันที่ 21 ก.พ.67 ตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่หมู่บ้านสวนนนท์วิว หมู่ที่ 3 ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี จับกุม นายเจตน์สฤษฎิ์ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นไม่มีทะเบียนขนาด 9 มม. จํานวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด 9 มม. จํานวน 43 นัด, กระสุนปืนอาวุธสงคราม ขนาด 7.62 (กระสุนปืนอาก้า) จํานวน 498 นัด และกระสุนปืนอาวุธสงคราม ขนาด 5.56 (กระสุนปืนเอ็ม 16) จํานวน 147 นัด
(5) วันที่ 5 มี.ค.67 ตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ ม.6 ต.บ้างหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จับกุม นายณัฐพัชร์ อายุ 38 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. จํานวน 3 กระบอก, อาวุธปืน พกสั้นรีวอลเวอร์ ขนาด .380 จํานวน 1 กระบอก, อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 11 มม. จํานวน 1 กระบอก, กระสุนปืน ขนาด .380 จํานวน 77 นัด, กระสุนปืน ขนาด .45 จํานวน 107 นัด และกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จํานวน 134 นัด
2. บุกห้องเช่าหนุ่มโรงงาน ตั้งฐานผลิตปืนเถื่อนส่งขายผ่านเฟซบุ๊กอวตาร โดย กก.4 บก.สอท.5 นําโดย พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ ผกก.4 บก.สอท.5 สืบสวนพบบัญชีเฟซบุ๊กอวตารบัญชีหน่ึง มีพฤติการณ์โพสต์ขายอาวุธ ปืนผิดกฎหมาย ต้ังแต่ประมาณปลายปี 2566 จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมและรวบรวมข้อมูลมาโดยตลอด จนสามารถระบุตัวเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว คือนายจักรินทร์ อายุ 39 ปี ชาว จ.หนองคาย ปัจจุบันทํางาน เป็นลูกจ้างโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอมตะนคร และได้เช่าห้องพักอยู่กับภรรยา ที่หอพักแห่งหน่ึง ในพื้นที่ ม.2 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดชลบุรี
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตํารวจได้นํากําลังพร้อมหมายค้น บุกเขา้ ตรวจค้นห้องพักดังกล่าว พบนายจักรินทร์ฯ อยู่ภายในห้อง มีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ก่อนจะเอ่ยปากยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตํารวจและนําเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจยึดอาวุธปืนยาว และกระสุนปืนประเภทต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์สําหรับผลิตและดัดแปลงอาวุธปืน ท้ังหมดจํานวนหลายรายการ พร้อมยอมรับว่าเคยขายอาวุธปืนท่ีผลิตขึ้นเองไปบ้างแล้วก่อนหน้าที่จะถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงแจ้งข้อหา ทํา ประกอบ ซ่อมแซม มีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครอง เพื่อจําหน่าย หรือสําหรับการค้าโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียน และ ทําอาวุธปืน หรือมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียน พร้อมยึดของกลางทั้งหมดนําส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี ดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกจับได้ให้การ ปฎิเสธทั้ง 2 ข้อกล่าวหา ตามคําแนะนําของทนายความ
ทั้งนี้ ตํารวจไซเบอร์ หรือ บช.สอท. ได้มีการสืบสวนการกระทําผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนออนไลน์ จนนํามาสู่ การตรวจค้นจับกุม และมีการรวบรวมเป้าหมายท่ีได้จากการขยายผล แล้วส่งมอบให้ตํารวจพื้นที่ทั่วประเทศ ดําเนินการเข้าตรวจค้นจับกุมมาแล้ว กว่า 1,000 เป้าหมาย ตามมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันปราบปราม อาชญากรรมร้ายแรงก่อนการเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน