สายตรวจบางเขน รวบแก๊งเช่าแท็กซี่ตะเวนลักตัดสายไฟ

สายตรวจบางเขน รวบแก๊งเช่าแท็กซี่ตะเวนลักตัดสายไฟ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 มี.ค. พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน ได้รับรายงาน พ.ต.ท.สรรพิชญ์ ศิริสุนทร รอง ผกก.ป.สน.บางเขน พร้อมด้วยพ.ต.ท.ประทีป คำมี สวป.สน.บางเขน ร.ต.อ.สุวพิชญ์ อินทร์สิงห์ รอง สวป. และกำลังสายตรวจ สน.บางเขน ร่วมกันจับกุมตัวนายวิรัตน์ หรือเขียว (ขอสงวนนามสกุล )อายุ 51 ปี นายนพพร หรือพร (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 48 ปีนายอเนก หรือใหญ่ (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 43 ปี และ นายจอ อายุ 28 ปี สัญชาติเมียนม่า พร้อมของกลาง สายเคเบิ้ล ขนาด 24 คู่ จำนวน 8 ชุด ชุดละ 3 เส้น ยาวประมาณเส้นละ 1.5 เมตร สายเคเบิ้ล ยาวประมาณ 2 เมตร จำนวน 1 เส้น อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตัดสายไฟ และรถแท็กซี่ สีชมพู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส หมายเลขทะเบียน ทห 941 กทม. โดยจับกุมได้ขณะก่อเหตุบริเวณปากซอยรามอินทรา 3 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เมื่อเวลา 04.30 น.( 6 มี.ค.) ที่ผ่านมา

ก่อนการจับกุมเวลาประมาณ 04.30 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม ชุดปฏิบัติการที่ 3 สน.บางเขน ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบจนมาถึง บริเวณปากซอยรามอินทรา 3 เห็นกลุ่มผู้ต้องหายืนอยู่ลักษณัะมีพิรุธ จึงขับรถเข้าไปเพื่อสอบถามแต่เมื่อกลุ่มผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ต่างพากันวิ่งหนีไปขึ้นรถแท็กซี่ สีชมพู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส หมายเลขทะเบียน ทห 941 กทม. ที่จอดรออยู่และพยายามจะขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้หยุดและได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจค้น

ผลการตรวจค้น พบสายเคเบิ้ล ขนาด 24 คู่ จำนวน 8 ชุด ชุดละ 3 เส้น ยาวประมาณเส้นละ 1.5 เมตร สายเคเบิ้ล ยาวประมาณ 2 เมตร จำนวน 1 เส้น และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตัดสายไฟ ซุกซ่อนอยู่ภายในรถและกระโปรงหลังรถ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมคุมตัวผู้ต้องหามาทำบันทึกที่สน. บางเขน

จากการสอบถามนายนพพร ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายวิรัตน์ หรือเขียว นายนพพร หรือพร นายอเนก หรือใหญ่ และ นายจอ สัญชาติเมียนม่า ก่อเหตุลักตัดสายไฟจริงโดยตนเองมีอาชีพขับรถแท็กซี่อยู่แล้ว จึงได้นำรถที่เช่ามา ให้นายวิรัตน์ เป็นผู้ขับพามาก่อเหตุและจอดรอบริเวณปากซอยรามอินทรา 3 เพื่อมาลักตัดสายเคเบิ้ลโดยตนจะเป็นคนตัด และขนสายเคเบิ้ลขึ้นรถแท็กซี่ ส่วนนายอเนก และ นายจอ จะเป็นคนดูต้นทาง เมื่อได้สายเคเบิ้ลมาก็จะนำไปขายย่านเคหะทุ่งสองห้อง ในราคากิโลกรัมละ 250 บาท แล้วนำเงินที่ได้มานั้นมาแบ่งกัน แต่เพิ่งทำเป็นครั้งแรกก็มาถูกจับ

อย่างไรก็ตามทางเจ้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสี่คน เนื่องจากพฤติการณ์แล้วมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนเชื่อว่าน่าจะเคยก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผล เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร ส่วนนายจอ สัญชาติเมียนม่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเดินทางเข้ามาถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ หากเข้ามาแบบผิดกฎหมาย ก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามพรบ.คนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการ ตามกฎหมายต่อไป

ทีมข่าวกรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ