วันที่ 4 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานี ร่วมกันจับกุม 1. นายทัศพล หรือไอซ์ อายุ 17 ปี 2. นายสุพัฒน์ธนโชค หรือพัฒน์ อายุ 45 ปี 3. นายศราวุธฯ อายุ 19 ปี 4. นายอัษฎาณุพล หรือโอ๊บ อายุ 19 ปี 5. นางพระตาฯ อายุ 47 ปี พร้อมบุคคลต่างด้าวชาวบังคลาเทศ จำนวน 23 คน

โดยกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ ๑-๕ ในความผิดฐาน ซ่อนเร้น ช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนกฎหมาย พ้นจากการจับกุม ผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุุคคลต่างด้าว ในความผิดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

ตรวจยึดของกลาง 1. รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว 1 คัน 2. รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนท์ 1 คัน 3. รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สีดำ 1 คัน 4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง

สถานที่จับกุม แยกป่าเว ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 กม.131 (ขาล่องใต้) หมู่ 1 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567

พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับการประสานจากชุดวิเคราะห์อาชญากรรมบนท้องถนนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจากภาคกลาง ลำเลียงเเรงงานต่างด้าวลงสู่ภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานีจึงได้ดำเนินการนำรถวิทยุออกตรวจการณ์ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยเมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุ บริเวณ ทล.41 กม.131 ม.1 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน สีดำ (รถนำขบวน) ขับขี่มาด้วยลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้หยุดและขอทำการตรวจค้นภายในรถ จากการตรวจสอบพบนายอัษฎาณุพลฯ (ผู้ต้องหาที่ 4) และนางพระตาฯ (ผู้ต้องหาที่ 5) เป็นผู้ขับขี่และนั่งโดยสาร และหลังจากนั้นได้มีรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว อีก 1 คัน ขับตามมาในลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้หยุดรถและขอทำการตรวจค้นภายในรถ พบนายทัศพลฯ (ผู้ต้องหาที่1) และนายสุพัฒน์ธนโชคฯ (ผู้ต้องหาที่ 2) เป็นผู้ขับขี่และนั่งโดยสารมา นอกจากนี้ยังพบว่ามีเเรงงานต่างด้าวนั่งซุกซ่อนอยู่ในกระบะท้ายรถจำนวน 11 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาและเเรงงานต่างด้าวที่ตรวจพบมาทำการตรวจสอบที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงไชยา

จากการสอบถามทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นขบวนการลักลอบขนเเรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งนอกจากรถ 2 คันดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้แล้ว ยังมีรถร่วมขบวนการอีก 1 คันที่ยังไม่ถูกจับกุม ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจทางจึงได้นำรถวิทยุ 2506 ออกปฏิบัติการติดตามรถร่วมขบวนการคันดังกล่าว โดยขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามมาถึงบริเวณถนนบ้านคลองหิน ม.7 ต.หัวเตย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ได้พบกับรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ จึงได้เรียกให้หยุดรถ และทำการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว จากการตรวจสอบภายในรถ พบนายศราวุธฯ (ผู้ต้องหาที่ 3) เป็นผู้ขับขี่ ภายในรถมีบุคคลต่างด้าวซุกซ่อนอยู่กระบะท้ายรถ จำนวน 12 คน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งเเบ่งเป็นคนไทย 5 คน และบุคคลต่างด้าว จำนวน 23 คน มาสอบสวนขยายผลจนทราบว่า บุคคลต่างด้าวจำนวน 23 คน เป็นชาวบังคลาเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางพบว่าไม่มีตราประทับเข้าประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย ในส่วนของผู้ต้องหาคนไทยเบื้องต้นให้การว่า พวกตนได้รับการว่าจ้างมาจากนางจอย (ไม่ทราบชื่อนามสกุล) โดยถูกว่าจ้างให้ไปรับบุคคลต่างด้าว จำนวน 23 คน จากพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนำไปส่งจุดหมายในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยพวกตนได้ค่าจ้างหัวละ 2,000 บาท และได้ค่าน้ำมัน 5,000 บาท (ในส่วนของค่าจ้าง จะได้รับเมื่อเสร็จงาน) และผู้ต้องหายังให้การรับอีกว่าได้ทำในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว 8 ครั้ง ก่อนจะมาถูกจับกุมในครั้งนี้

ภายหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาข้างต้นให้ผู้ต้องหาทราบ และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ไชยา เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน