ไล่ล่าแก๊งคนร้ายยิงรถทางหลวง ค้นรังพบปืน-ยาอื้อ พร้อมรวบหัวหน้าขบวนการค้ายาข้ามชาติ
วันที่ 3 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.,กก.สสน.บก.ป., ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 คน 1. นายณรงฤทธิ์ฯ อายุ 27 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สถานที่จับกุม หมู่ 5 ต.หนองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 2 มี.ค.67
2. นางสาวธัญญาฯ อายุ 25 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอทเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย สถานที่จับกุม หมู่ 5 ต.ถ่อนนาลับ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 2 มี.ค.67
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.พ.67 เวลาประมาณ 03.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. ได้ทำการออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา ขับขี่ด้วยความเร็วสูงลักษณะมีพิรุธ จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ จากการสังเกตภายในรถพบคนร้ายนั่งมาในรถ 2 คน (คนขับและผู้นั่งข้างโดยสาร) ซึ่งต่อมาทางคนร้ายได้ขับขี่รถยนต์เร่งเครื่องหลบหนีเข้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตาม พร้อมทั้งแจ้งศูนย์วิทยุ 191 ให้สกัดรถยนต์คันดังกล่าว โดยเมื่อรถยนต์คันดังกล่าวถึงพื้นที่ ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดัง จำนวน 4-5 นัด หลังจากนั้นเมื่อรถคนร้ายมุ่งหน้าเข้าไปยัง จ.หนองบัวลำภู ก่อนถึงตัว จ.หนองบัวลำภู ประมาณ 8 กม. ก็มีเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นอีกครั้งประมาณ 4-5 นัด และมีเสียงคล้ายวัตถุของแข็งกระทบกับรถยนต์สายตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 1 ครั้ง ซึ่งทางคนร้ายได้พยายามลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ชำนาญจนขับหลบหนีไปได้ในพื้นที่บริเวณถนน ต.หนองหว้า อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบรถยนต์สายตรวจวิทยุที่ใช้ขับไล่ติดตามคนร้าย เบื้องต้นพบว่า มีร่องรอยคล้ายกระสุนปืน จำนวน 1 รอย ทะลุผ่านบริเวณกันชนด้านหน้า โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือประชาชนได้รับบาดเจ็บ ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.3 บก.ป. ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนติดตามคนร้าย รวมทั้งขยายผลจับกุมบุคคลในเครือข่ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายเป็นขบวนการค้ายาเสพติด โดยมีหน้าที่ขนส่งยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน มาส่งกระจายทั่วภาคอีสาน โดยคนร้ายได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวมาจากทาง จ.อุดรธานี มุ่งหน้าเข้าสู่ จ.ขอนแก่น ซึ่งน่าเชื่อว่ากำลังจะมาส่งยาบ้าในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจากการสืบสวนทำให้ทราบว่าคนร้ายที่ขับขี่รถคันก่อเหตุ คือนายจิตติคุณหรือเบิร์ดฯ (ผู้ขับขี่) และนายศุภชัยหรือต้าฯ (ผู้นั่งโดยสารข้างคนขับ) ซึ่งภายหลังจากก่อเหตุ นายจิตติคุณฯ และนายศุภชัยฯ ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ที่ หมู่ 5 ต.เมืองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งสองราย พร้อมทั้งยังได้ทำการสืบสวนเพื่อทลายเครือข่ายเเก๊งค้ายาเสพติดดังกล่าวอีกด้วย
ซึ่งต่อมาตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป., ชุดหนุมาน บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.4 บล.ทล. นำกำลังลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าว ในพื้นที่ จ.หนองคาย, จ.อุดรธานี และจ.หนองบัวลำภู โดยจากการตรวจสอบยังไม่พบตัวนายจิตติคุณฯ และนายศุภชัยฯ ในพื้นที่ดังกล่าว จึงทำให้น่าเชื่อว่าคนร้ายทั้งสองได้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว)
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นเป็นหัวหน้าแก๊ง มีหน้าที่สั่งการให้นายจิตติคุณฯ และนายศุภชัยฯ ไปส่งยาบ้าตามจุดที่บอก พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ยาไอซ์ จำนวน 75.2 กรัม, ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 196 กรัม, ปืนลูกซอง จำนวน 1 กระบอก, ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก, ปืนลูกโม่ .38 จำนวน 1 กระบอก, ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน รวมกว่า 132 นัด, รถยนต์ จำนวน 1 คัน, เงินสดจำนวน 175,120 บาท, สมุดบัญชี 7 เล่ม และรายการอื่นๆ รวมกว่า 28 รายการและยังได้จับกุม น.ส.ธัญญาฯ ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นแฟนสาวของนายศุภชัยฯ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 30 เม็ด จากนั้นจึงได้นำตัวนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงคุก จ.หนองคาย และนำตัว น.ส.ธัญญาฯ พร้อมของกลางพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หลังจากการจับกุมดังกล่าวข้างต้นเเล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ขยายผลจนพบรถคันก่อเหตุ ถูกจอดไว้ที่ห้องเช่า ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งได้มีการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ให้การว่า หลังจากที่นายจิตติคุณฯ และนายศุภชัยฯ ก่อเหตุดังกล่าวแล้ว ตนได้ไปรับนายจิตติคุณฯ และนายศุภชัยฯ ที่ จ.บึงกาฬ และพาไปส่งที่ สปป.ลาว ตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่านายณรงค์ฤทธิ์ฯ มีหมายจับติดตัวอีก จำนวน 3 หมาย โดยมีคดีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการแก๊งยาบ้าข้ามโขง 4 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ที่ จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.66 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มคนร้ายมีพฤติการณ์ยิงต่อสู้ก่อนที่จะหลบหนีข้ามฝั่งไปทาง สปป.ลาว ลักษณะเช่นเดียวกันกับเคสนี้
1. หมายจับศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ 52/2566 ลง 17 ก.พ.66 ความผิดฐาน สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้ลงกระทำตามที่สมคบกันร่วมกันนำเข้าในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมีอาวุธปืนหรือใช้อาวุธปืนอันก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
2. หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 318/2565 ลง 14 มิ.ย.65 ความผิดฐาน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ
3. หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 336/2565 ลง 22 มิ.ย.65 ความผิดฐาน มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน