แม่นักเรียนสาววัย 17 ปีร้องสื่อ เห็นลูกเครียดหนักกลัวคิดสั้น หลังโดนมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน จนตกเป็น บัญชีม้า โดยไม่รู้ตัว
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2567 น.ส.อริสา อายุ 17 ปี บ้านอยู่ ต. โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ. ประสิทธิ์ ดำนุ้ย พนักงานสอยสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เผยว่า ผู้แจ้งเปิดใช้บัญชีเงินฝาก ธ.กรุงไทย บ/ซ เลขที่ 4870702509 ต่อมาผู้แจ้งใต้รู้จักกับเพื่อนทางเฟซบุ๊คชื่อ Oilly Oangkhana
และมีการขอหมายเลขบัญชีเงินฝากผู้แจ้ง โดยผู้แจ้งได้ให้ไปและเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 67 เวลา 12.53 น. ได้มีการโอนเงินเข้ามาในบัญชีผู้แจ้งจำนวน 24,000 บาท แล้วเพื่อนทางเฟซบุ๊กคนดังกล่าว บอกว่าให้โอนกลับไปบัญชีอังคณา อินทสิทธิ์ กรุงไทย 5050515661 จำนวน 23,000 บาท
จำนวนเงินคงเหลืออีก 1,000 บาท เมื่อหลงเชื่อแล้วทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นมิจฉาชีพทำให้บัญชีผู้แจ้งถูกอายัด จึงมาแจ้งความไว้เป็น หลักฐานเพื่อจะใด้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยแจ้งความเมื่อเวลาประมาณ 14.20 น.ของวันที่ 2 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุด แม่ของ น.ส.อริสา ได้เข้าปรึกษากับศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากมีคนที่อ้างว่าเป็นตำรวจโทรมาหาบุตรสาวขอให้โอนเงิน 24,000 บาทไปให้ เมื่อบอกว่าโอนไปให้เรียบร้อยแล้ว แต่คนที่เป็นตำรวจอ้างว่าต้องโอนไปให้อีก 24,000 บาท หากไม่ดำเนินการจะแจ้งความดำเนินคดี มีจะมีหมายศาลมาที่บ้าน และเมื่อตรวจสอบไปทางธนาคารที่มีเงินเหลือในบัญชี 400 บาทก็ทำธุรกรรมไม่ได้
ทางธนาคารแจ้งว่ามีคนแจ้งมาว่าบัญชีของบุตรสาวเป็นบัญชีม้าทางธนาคารจึงอายัดบัญชีบุตรสาวตนเอาไว้ ตนและบุตรสาวแจ้งกับธนาคารว่า แค่มีคนโทรมาแจ้งซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ทางธนคารไม่น่าจะมีอำนาจในการสั่งบล็อคอายัดบัญชีลูกค้าแบบนี้ หากเป็นตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล หรือคำสั่งศาลมาแสดงกับธนาคารเป็นหลักฐานว่า บัญชีบุตรสาวเป็นบัญชีม้า แบบนี้ธนาคารก็มีหลักฐานในการอายัดบัญชีได้ ในที่สุดธนาคารทางธนาคารแจ้งว่าจะทำการบล็อกเบื้องต้น 3 วัน หลังจากนั้นจะเปิดให้ใช้บริการได้ตามปกติ
ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้จะไปแจ้งความกับตำรวจเป็นหลักฐานแล้ว แต่บุตรสาวของตนตกใจ เครียดเป็นอย่างมาก ทั้งยังนอนไม่หลับทั้งคืน จนตนต้องนั่งเฝ้าบุตรสาวตลอดทั้งคืนเกรงว่าจะคิดสั้นทำร้ายตัวเอง ในตอนเช้าบุตรสาวก็ต้องไปสอบปลายภาคที่เรียน กศน.แต่จะไม่ไปเพราะเครียด คงทำข้อสอบไม่ได้ แต่ในที่สุดก็เดินทางไปสอบปลายภาค
นอกจากนี้ ผู้สื่อยังข่าวรายงานว่า เมื่อมีการตรวจสอบรายชื่อ อังคณา อินทสิทธิ์ เจ้าของเลขบัญชี กรุงไทย 5050515661 ทางออนไลน์ พบข้อความเตือนว่า พฤติกรรมของ มิจฉาชีพ (โจรที่รักแต่ตัวเอง มีลูกซักวันก็ต้องพลัดพรากจากกัน เพราะติดคุก) ชื่อ : อังคณา อินทสิทธิ์ ชื่อเล่น ออย เฟสบุ๊ค: Oilly Oangkhana วิธีโกงที่ 1 หลอกซื้อ-ขาย-เทริ์นโทรศัพท์โดยการปลอม Line เป็นคนใกล้ตัวของพ่อค้า-แม่ค้าที่ขายโทรศัพท์ และติดต่อทำการซื้อ-ขาย รู้วิธีการซื้อ-ขายเป็นอย่างดี
มีการต่อรองราคาเป็นอย่างดี กรณีนี้จะมีผู้เสียหาย 2 คน คือ 1.พ่อค้า-แม่ค้า 2.คนที่โดนแอบอ้างมาซื้อ ออยจะใช้ บช.ม้าในการรับเงินและโอนไปให้ตัวเองอีกที ซึ่งจะโยงไปวิธีที่ 2 , วิธีที่ 2 หลอกเอา บช. คนอื่นเพื่อเป็น บช.ม้า 1) หลอกให้ บช.ม้า (ส่วนใหญ่เป็นทรงสก๊อยที่ไม่มีความรู้และโง่จริง) เป็นตัวรับเงินและโอนเงินไปให้ออย โดยจะหักค่าบริการไม่กี่ร้อยบาท 2) พอ บช.ม้ารู้ตัวว่าถูกหลอก ออยก็จะสอนวิธีให้ บช.ม้า ปฏิเสธและอ้างว่าไม่รู้ 3) ออยโดนจับได้ว่าหลอก ก็จะอ้างว่าโดนหลอกมาอีกที สรุปคือ มีการเตรียมตัวมาอย่างดีว่าไม่มีทางถูกจับได้
เงินที่โอนจาก บช ม้า(ที่ถูกหลอก) จะโอนเข้า บช. ออย [กรุงไทย 5050515661 อังคณา อินทสิทธิ์] โดยตรงและออยจะโอนเงินออกไปต่อที่ประเทศเพื่อนบ้าน เพราะนอกเหนือความรับผิดชอบของ ตำรวจไทยและออยจะอ้างหลังชนฝาว่า โดนหลอกจากคนที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้านอีกที แต่ทั้งหมดจะเป็นไปไม่ได้เพราะผู้เสียหายที่โดน ออย หลอกมีมากกว่า 20 คน
สุดท้ายแล้ว ขอเชิญคนที่โดนออยหลอก ทั้งผู้เสียหายที่เสียเงิน และ ผู้ที่เป็นบัญชีม้าคุณไม่มีทางได้ บช. หรือ เงินของคุณคืน สิ่งที่คุณทำได้แค่ รวมกลุ่มกัน ช่วยกันรวบรวมหลักฐานใช้เงินส่วนตัวจ้างทนายร่วมกัน และถ้าตำรวจทำอะไรไม่ได้เราก็ต้องจ้างนักสืบพื้นที่ร่วมกันเพื่ออย่างน้อยให้ออยไม่สามารถมีที่ยืนในประเทศนี้ได้อีก