เศร้า! แท็กซี่เมาแล้วขับซิ่งฝ่าความมืด พุ่งชนลุงนักปั่นเสือภูเขาดับคาที่ แล้วหนีหาย

เศร้า! แท็กซี่เมาแล้วขับซิ่งฝ่าความมืด พุ่งชนลุงนักปั่นเสือภูเขาดับคาที่ แล้วหนีหาย

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 2 มีนาคม 2567 พ.ต.ท.ศิริ จันทร์ดีศรี สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์พุ่งชนรถจักรยาน 2 ล้อ ของนักปั่นรถจักรยานเสือภูเขา ที่ปั่นออกกำลังกายตอนเช้า จำนวน 1 คัน ทำให้คนขี่รถจักรยานเสือภูเขาเสียชีวิตคาที่ 1 ราย เหตุเกิดริมถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว สาย 201 หน้าศูนย์จำหน่ายรถเชฟโลเลก ฝั่งขาเข้าตัวเมืองชัยภูมิ หน้าหมู่บ้านหนองนาแซง ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงพร้อมด้วยกำลังตำรวจ แพทย์เวร รพ.ศูนย์ชัยภูมิ และจนท.มูลนิธิฯ ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบซากรถจักรยานเสือภูเขาถูกชนจนพังเหลือแต่ล้อหน้า และชิ้นส่วนรถจักรยานเสือภูเขาและชิ้นส่วนกันชนหน้ารถแท็กซี่ตกกระจายอยู่ในที่เกิดเหตุ บนถนนยังพบร่างชายสูงอายุทราบชื่อภายหลังชื่อนายนิรวรรณ์ ไตรทิพย์ อายุ 68 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ นักปั่นเสือภูเขา สวมชุดนักปั่นฯนอนเสียชีวิตอยู่บนถนน สภาพศพคอหัก ศีรษะแตกและเป็นแผลถลอกทั่วร่าง ในชุดออกกำลังกายปั่นจักรยานเสื้อแขนยาวสีเทาดำ กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ

ต่อมา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบรถยนต์เก๋งแท็กซี่ยี่ฮ้อโตโยต้า สีเขียวเหลือ หมายเลขทะเบียน มข-8209 กรงุเทพฯ ด้านหน้ามีลอยเฉียวชน จอดเสียอยู่ในป่าข้างทาง โรงแรมโคโคนัด ต.บ้านเล่า อ.เมืองชัยภูมิ ที่อยู่ห่างจุดเกิดเหตุนับ 10 กม. เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบ

หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่คุมตัวนายธเนตร ดลราษี อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 3 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ คนขับแท็กซี่ ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงถึง 125 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาขับรถขณะเมาสุราหรือเมาอย่างอื่นโดยประมาท เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินเสียหาย ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตได้ส่งไปชันสูตรที่ รพ.ศูนย์ชัยภูมิ

โดย นายธเนตร สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกินเหล้ากับเพื่อน ๆ แล้วขับรถแท็กซี่ ออกจากบ้านพักที่มีนบุรี เพื่อขับรถกลับมาเยี่ยมญาติที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุได้ชนเข้ากับสิ่งของเสียงดังสนั่น จนรถเสียหลัก ก่อนจะขับหลบหนีและรถเกิดหม้อน้ำแตก วิ่งต่อไปไม่ได้ จึงจอดไว้ข้างถนนและมาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา ซึ่งตนยอมรับว่ากินเหล้ามาจริง

ทางด้านเพื่อน ๆ นักปั่นที่ทราบข่าว ได้ตามมาดูผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ในทุก ๆ เช้ามืดกลุ่มพวกตนและผู้เสียชีวิตจำนวน 4 - 5 คน จะนัดพบกันมารวมกลุ่มแล้วพากันปั่นรถจักรยานเสือภูเขาไปตามถนนไปรอบ ๆ ตัวเมืองชัยภูมิ และเมื่อถึงเวลานัด พบว่าผู้เสียชีวิตยังไม่มาตามนัด คิดว่าคงจะติดธุระด่วนจึงไม่มารวมกลุ่มปั่นเหมือนทุกเช้าและมาทราบข่าวอีกทีว่าผู้เสียชีวิตถูกรถฯชนเสียชีวิตเสียแล้ว จึงได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวจีงหวัดชัยภูมิ ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

เรียบเรียง siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ