หมอเหวง ยื่นหนังสือให้ถึง หน.พรรคก้าวไกล เตรียมหารือข้อเรียกร้อง ทวงความยุติธรรม คปช. 53
วันที่ 29 ก.พ. 67 ที่ จุดรับหนังสือ อาคารรัฐสภา นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และคณะประชาชนทวงคืนความยุติธรรม 2553 (คปช.53) พร้อมญาติผู้สูญเสีย ยื่นหนังสือถึง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อร่วมเจรจาปรึกษาหารือเพื่อให้มีการปฏิบัติได้จริงตามข้อเรียกร้องและคำมั่นสัญญาก่อนการเลือกตั้ง เพื่อทวงคืนสัญญารื้อฟื้นคดีที่ถูกแช่แข็งตั้งแต่ปี 2553
โดยนพ.เหวง กล่าวว่า มีหลายคนตั้งคำถามว่ามายื่นหนังสือกับฝ่ายค้าน จะได้ผลอะไร ซึ่งทางพรรคก้าวไกล สามารถจะดำเนินการเองก็ได้ หรือจะผลักดัน ให้รัฐบาลทำก็ยังได้ หากรัฐบาลไม่ทำสามารถที่จะตั้งข้อหารัฐบาล ผิดกฎหมาย 157 และยังเสนอ กฎหมายได้ เพราะ พรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เสนอกฎหมายที่ให้ข้าราชการทหาร ที่ทำความผิดอาญาต่อพลเรือน ต้องขึ้นศาลพลเรือน ไม่ใช่ศาลทหาร เพราะที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ เคยยื่นเรื่องไปที่ศาลทหารในหลายเคส แต่ก็ถูกปัดตก ศาลทหารสั่งไม่ฟ้อง จึงมีหนทางเดียวที่จะแก้ คือการแก้กฎหมาย ให้ทหารที่ทำความผิดทางอาญาต่อพลเรือน ต้องมาขึ้นศาลพลเรือน เช่นเดียวกับนักการเมืองที่ทำความผิดกับพลเรือนต้องมาขึ้นศาลพลเรือนเช่นกัน และอีกสิ่งที่พรรคก้าวไกลประกาศชัด ก่อนที่จะลงเลือกตั้ง จะประกาศรับรองอำนาจศาลอาญา ระหว่างประเทศเฉพาะกรณี เมษายน , พฤษภาคม 2553 ตีวงตายตัว เกี่ยวข้องเฉพาะศอฉ. และ รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
จากนั้นได้เปิดเอกสาร รายชื่อ ประชาชน ที่เสียชีวิต จากการสลายการชุมนุม ในปี 2553 และยังมี รายชื่อ ทั้ง 62 ศพ ที่เสียชีวิต และยังไม่ได้รับการชันสูตรศพ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้ไปยื่น ให้กับพรรคเพื่อไทย แต่ก็ยังนิ่งเฉยซึ่งหนังสือ ฉบับนี้ที่จะยื่นให้พรรคก้าวไกล คือฉบับเดียวกับที่ยื่นให้พรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ สามารถนำข้อมูลไปใช้ได้เลย เพราะได้มีการรวบรวมรายละเอียดต่าง ๆไว้ให้หมดแล้ว
จากนั้น นพ.เหวง ได้พูดถึงกฎหมายนิรโทษกรรม ว่า เห็นด้วยกับ การนิทรรศกรรมทางการเมือง ม.112 แต่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมให้กับข้าราชการ ที่ทำผิดต่อพลเรือน หรือใช้ความรุนแรงกับประชาชนเกินกว่าเหตุ จะต้องถูกจับมาลงโทษ รวมไปถึง การนิรโทษกรรมให้กับวัยรุ่นเยาวชน ก่อน หน้านี้ที่เห็นต่างทางการเมือง แต่ในที่นี้ พรรคเพื่อไทย แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับการ นิรโทษกรรม ม.112 แม้ว่าก่อนหน้านั้น จะมีการพูดออกสื่อว่า เปิดกว้างต่อการแสดงความคิดเห็น
โดยเมื่อนายชัยธวัช เดินทางมาถึง นพ.เหวง กล่าวว่า ต้องการให้พรรึก้าวไกล ดำเนินการ 3 ข้อดังนี้
1. ขอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐหรือพลเรือน หรือประชาชน หรือครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อติดตามทวงถามเรื่องเกี่ยวกับการเสียชีวิตเมื่อเมษายน 2553 ว่าจะต้องดำเนินการให้ครบทุกศพ ซึ่งขาดอีก 62 ศพ
2. แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคที่จะนำเอาคนฆ่า และคนสั่งฆ่ามารับผิดทางกฎหมาย นำทหารที่ทำผิดอาญาต่อพลเรือนมาขึ้นศาลพลเรือน รวมถึงนักการเมืองที่ทำผิดอาญาต่อพลเรือน
3. ต้องการให้รับรองแก่อำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศเฉพาะกรณีเมษายน 2553 เกี่ยวข้องเฉพาะศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
ทางด้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ประสานงานกับรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม อยู่เป็นระยะ เพื่อที่จะขอติดตามความคืบหน้าของคดีความทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคดีความที่ศาล ไต่สวนการตายในชั้นสอบสวนไปแล้ว และยังไม่มีการสั่งฟ้อง หรือจะเป็นคดีความที่สั่งฟ้องไปแล้ว แต่ถูกตีตกด้วยสาเหตุต่าง ๆ รวมถึงอีก 62 ศพ ที่ยังไม่ถูกไต่สวนการตาย จะพยายามติดตาม และผลักดันเพื่อให้คดีความเหล่านี้ มีความคืบหน้า และจะหาช่องทาง จัดตั้งคณะกรรมการการตรวจสอบ ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้ ต้องมีอำนาจทางกฎหมาย ซเรื่องดังกล่าว จะต้องหารือกับคณะกรรมการความมั่นคง และคณะกรรมการทางกฎหมาย ถึงแม้ว่าฝ่ายรัฐบาลจะเป็นประธานกรรมาธิการ แต่คิดว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะพอคุยกันได้ และยังพูด ถึงการที่ข้าราชการ ละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยที่ไม่มีความผิดทางกฎหมาย ทางพรรคก้าวไกล กำลังจะดำเนินการ กฎหมายฉบับนี้ ในบางกรณีมีข้อเท็จจริงชัดอยู่แล้ว แต่ว่ากระบวนการยุติธรรม ยังไม่ไปถึงที่สุด หรืออาจจะมีปัญหาทางเทคนิค
ทั้งนี้ นพ.เหวง กล่าวปิดท้ายว่า ตอนนี้มีเรื่องจริง ที่เห็นชัด ๆ คือเรื่อง 6 ศพ วัดปทุม ศาลมีคำสั่งการตาย ชัดมาก ซึ่งไม่ต้องไปหาหลักฐานอะไรเพิ่มเติม ชี้ชัด เลยว่า ผู้ตาย เสียชีวิตจากฝีมือทหารจริง ๆ มาจากการสั่งการของ ศอฉ. ซึ่งศพวัดปทุม มีรายละเอียด ทุกอย่าง แม้กระทั่งชื่อ ทหารที่เป็นคนยิง รวมถึงผู้บังคับบัญชา จึงต้องรอจังหวะเวลาเพื่อแก้กฎหมาย ทหารที่ทำผิดอาญาต่อประชาต่อพลเรือน ต้องขึ้นศาลพลเรือน เพราะเป็นไปได้อย่างมากหากขึ้นศาลทหาร คดีดังกล่าวจะถูกยกฟ้อง จึงต้องมาพึ่งพรรคก้าวไกลเพื่อหารือ การแก้กฎหมายดังกล่าว และเชื่อมั่นในฝ่ายค้านเป็นอย่างสูง
ทีมข่าวสยามนิวส์ นครบาล