ป.ป.ส. ผนึกภาคี เปิดปฏิบัติการ นานาอุ่นใจ ทลายเครือข่ายยาเสพติดชาวต่างชาติ ลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่
พลตำรวจโทภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับตำรวจปราบปรามยาเสพติด , กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ,และทหาร กว่า 200 นาย เปิดปฏิบัติการ "นานาอุ่นใจ" ทลายเครือข่ายยาเสพติดชาวต่างชาติ ปิดล้อมตรวจค้นร้านค้า สถานบริการ ที่พักย่านนานา ตั้งแต่สุขุมวิทซอย 3 - 11 และตรวจสอบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อปราบปรามการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในหมู่นักท่องเที่ยวผิวสี และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ หลังเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ามีกลุ่มชาวต่างชาติจำหน่ายยาเสพติดให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยลักษณะจับกลุ่มและส่งยาเสพติดให้กันอย่างโจ่งแจ้ง และก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเสพโคเคนเกินขนาดจนเสียชีวิต 1 ราย
โดยเปิดปฏิบัติการมาตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 6 คน เป็นชาวแอฟริกันตะวันตก 5 คนและหญิงไทย 1 คน พร้อมของกลางโคเคน 1.45 กรัม เฮโรอีน 13.5 กรัม และอายัดทรัพย์สิน อาทิ ห้องชุด และรถยนต์ รวมมูลค่ากว่า 4.6 ล้านบาท และวันนี้เป็นปฏิบัติการวันที่ 4 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีก 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นหญิงชาวแทนซาเนีย ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อว่าเป็นแก๊งที่ขายโคเคนให้กับนักท่องเที่ยวที่เสพยาเกินขนาดและเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นห้องพักของหญิงรายนี้ จนพบก้อนต้องสงสัยลักษณะคล้ายสบู่และแพ็คใส่ถุงพลาสติก ซุกซ่อนบนฝ้าเพดานห้องน้ำ เมื่อตรวจด้วยชุดทดสอบยาเสพติด พบว่าเป็นโคเคน 3.8 กรัม จึงยึดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบถามหญิงรายนี้อ้างว่าเข้าประเทศไทยมาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 6 เดือน และมาขายบริการในย่านนานา ส่วนยาเสพติดที่พบเป็นของชายผิวสีอีกคนหนึ่ง
พลตำรวจโทภาณุรัตน์ยังบอกอีกว่า เส้นทางการลำเลียงโคเคนและเฮโรอีนเหล่านี้ มักจะมาจากประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้ เข้าไปยังไนจีเรีย และตะวันออกกลาง ก่อนคนผิวสีเหล่านี้จะเข้ามาในไทย โดยซุกซ่อนโคเคนหรือเฮโรอีนผ่านการกลืนเข้าร่างกาย ซึ่งเจ้าหน้าที่สนามบินของไทยหากได้รับเบาะแส หรือพบนักท่องเที่ยวต้องสงสัยก็จะเชิญเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ ซึ่งจะทำให้เห็นวัตถุที่กลืนเข้าไป และจับกุมได้เป็นระยะๆ
พลตำรวจโทภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือป.ป.ส. ผมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมตรวจค้นเครือข่ายค้ายาเสพติด ในกลุ่มชาวต่างชาติภายในซอยนานาถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร โดยการตรวจค้นพบหญิงสาวชาวแคนซาเนีย ครอบครองขอบโคเคนจำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
พลตำรวจโทภาณุรัตน์ เปิดเผยว่าปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ในพื้นที่ดังกล่าวมีชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ เสียชีวิตจากการเสพโคเคนเกินขนาด และได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลุ่มชาวต่างชาติลักลอบค้ายาเสพติด ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นจำนวนมาก จึงวางแผนนำกำลังเข้าตรวจค้นซึ่งการปฏิบัติภารกิจวันนี้ดำเนินการเป็นวันที่ 4 โดยผลจากการปฏิบัติภารกิจในช่วง 1-3 วันที่ผ่านมา สามารถตรวจยึดของกลางเป็นสารเสพติดชนิดโคเคน และเฮโรอีน จากชาวแอฟริกาตะวันตกได้จำนวนมาก พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน และรถยนต์ได้จำนวนหนึ่งรวมมูลค่ากว่า 4,600,000 บาท สำหรับโคเคน เป็นสารเสพติดที่มีต้นทางมาจากฝั่งทวีปแอฟริกาเป็นส่วนใหญ่ และมักจะลักลอบผ่านเข้ามาในประเทศไทยในลักษณะของการหีบห่อบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกลืนลงท้องได้ เพื่อหลบสายตาเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง แต่ที่ผ่านมาด่านตรวจคนเข้าเมืองก็สามารถใช้เครื่องมือพิเศษสุ่มตรวจพบจับดำเนินคดีไปแล้วหลายคน ซึ่งหลังจากนี้ทางสำนักงาน ป.ป.ส. จะประสานทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง คงเข้มตรวจสอบผู้ลักลอบน้ำยาเสพติดเข้าประเทศมากยิ่งขึ้น ส่วนปฏิบัติการในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการป้องกันและปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดชาวต่างชาติ รวมถึงสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวย่านซอยนานา
นอกจากการตรวจค้นเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่แล้ว ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังได้ตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีความผิดเกี่ยวกับการหลบหนีเข้าเมืองหรืออยู่เกินกำหนดระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต โดยผลการปฏิบัติภารกิจในวันนี้พบชายชาวไรบีเรีย ถือหนังสือเดินทางนักศึกษาแต่ไม่ยอมรายงานตัวตามกำหนด 90 วัน จึงเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย และหญิงชาวอคนซาเนียอีกหนึ่งคน อยู่ภายในประเทศเกินกำหนด จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าวกรุงเทพมหานคร รายงาน