เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ (17 ก.พ. 67) บริเวณห้องเก็บศพ โรงพยาบาลอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ได้มีลูกศิษย์ และบรรดาญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธา ต่างเดินทางมารับร่าง ของ พระครูปกาศิตธรรมคุณ (หลวงพ่อสุวรรณ ถิรสทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดยาง ตำบลห้วยไผ่ อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง เจ้าตำหรับนะหน้าทองขุนแผนชมตลาด และ ตะกรุด

หลังจากที่หลวงพ่อสุวรรณ ได้อาพาธนานนับปีเข้าๆออกๆโรงพยาบาลเป็นประจำ จนเมื่อช่วงเวลา ท่านได้ละสังขารแล้วในวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18.49 น.ที่เตียง 12 ชั้น 6 โรงพยาบาลอ่างทอง อย่างสงบ รวมอายุ 80 ปี 36 พรรษา ก่อนนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดยาง และในวันที่ 19 ก.พ. 2567 จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เวลา 16.00 น.

สำหรับประวัติหลวงพ่อสุวรรณ เกิดในสกุล บัวสรวง เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2487 ที่บ้านทับยา ต.บ้านไร่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายอินและนางก้อย บัวสรวง ประกอบอาชีพกสิกรรมและค้าขายในช่วงวัยเยาว์ จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดบ้านไร่ ก่อนลาออกมาช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพ ย่างเข้าวัยหนุ่ม ได้ประกอบอาชีพเป็นตัวแทนขายเคมีภัณฑ์ตามที่ญาติแนะนำ

กระทั่งอายุ 42 ปี เกิดความเบื่อหน่ายทางโลกและต้องการบวชทดแทนคุณบุพการี จึงเข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดคำหยาด อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เมื่ออุปสมบทได้อยู่จำพรรษาที่วัดคำหยาด สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และออกท่องธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศ ครั้งหนึ่งมีโอกาสไปพำนักที่วัดพรหมประกาสิต (ถ้ำสามพี่น้อง) ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ปฏิบัติกัมมัฏฐานบำเพ็ญเพียร จึงเดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดคำหยาด ศึกษาร่ำเรียนสรรพวิทยาคมสายหลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ได้ถ่ายทอดวิชาให้อย่างครบถ้วน

จนกระทั่ง พ.ศ.2535 คณะสงฆ์จังหวัดอ่างทอง ได้มอบหมายให้ หลวงพ่อสุวรรณ บูรณปฏิสังขรณ์วัดยาง ต.ห้วยไผ่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ตั้งอยู่ริมคลองห้วยไผ่ฝั่งตรงข้ามวัดโพธิ์เก้าต้น และอนุสรณ์สถานค่ายบางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี วัดยางถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่สมัยศึกบางระจัน เสนาสนะที่หลงเหลือมีเพียงวิหารฐานอ่อนโค้งอยู่ในสภาพปรักหักพัง ไม่มีหลังคา

ซึ่งวัตถุมงคลของ หลวงพ่อสุวรรณ ล้วนแต่ได้รับความนิยมจากประชาชน เนื่องจากมีพุทธคุณครอบจักร วาล โดดเด่นหลายด้าน ที่ได้รับความนิยม คือตะกรุดที่ปรากฏปาฏิหาริย์แก่ผู้บูชา เอกลักษณ์เฉพาะสร้างตามตำราพิชัยสงคราม ยันต์จารมือธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ