จากกรณีที่ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้อนุมัติให้นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีชื่อใน 930 รายชื่อ ได้รับการพักโทษ ภายหลังเข้ารับโทษเป็นเวลา 6 เดือน จนล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.พ. 2567 ที่่ผ่านมา อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายทักษิณ ได้นั่งเคียงข้างพาคุณพ่อนั่งรถตู้เดินทางกลับเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับประเด็นนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบคำถามสื่อ ระบุว่า ยังไม่มีกำหนดการเข้าพบนายทักษิณ เพราะท่านก็เพิ่งออกมาเมื่อเช้านี้ ตนคิดว่าในฐานะพ่อ ก็ยินดีด้วยที่จะได้เจอลูก ไม่ได้เจอกันมานาน ไม่ได้อยู่เป็นครอบครัวมานาน และท่านก็กลับเข้ามาตามกระบวนการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว

การออกมาก็เป็นไปตามข้อกฎหมายทุกข้อกฎหมายที่กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ และกระทรวงยุติธรรมเป็นคนเดินเรื่องมา เชื่อว่าช่วงเวลาหลังจากนี้นายทักษิณคงไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง คงอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และก็รักษาตัวอยู่ต่อไป ให้ดี หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากัน

ส่วนผู้ที่เห็นต่างซึ่งออกมาเคลื่อนไหว และมองว่าศูนย์บริหารงานหลังจากนี้จะเปลี่ยนจากทำเนียบรัฐบาล ไปเป็นบ้านจันทร์สองหล้าแล้ว นายกรัฐมนตรี มองว่า เรื่องความเห็นต่างเป็นธรรมดาในสังคมไทยอยู่แล้ว พร้อมน้อมรับเรื่องความเห็นต่าง แต่ต้องยึดมั่นในหลักการ

อย่างเช่น นายอนุทินเอง ก็อยู่คนละพรรค ก็คงมีเห็นต่างกันบ้าง แต่โดยรวมก็เห็นตรงกัน เพราะบ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้ บ้านเมืองเราก็บอบช้ำกันมาเยอะ วันนี้มาร่วมกันทำงานเพื่อประเทศชาติ จะเป็นเรื่องของอดีตนายก หลาย ๆ ท่านเอง

ถ้าท่านจำได้ เมื่อตอนที่ตนได้รับการแต่งตั้งก็ได้เข้าไป พบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อฟังคำแนะนำ และเวลาเจอในงานต่าง ๆ ก็มีการพบปะพูดคุยกัน ก็ขอคำแนะนำอยู่แล้ว เชื่อว่าถ้าเกิดท่านอดีตนายกทักษิณพร้อม จะให้คำแนะนำ ตนเชื่อว่าไม่มีใครในรัฐบาลนี้ไม่อยากจะรับคำแนะนำจากท่าน อย่าดรามากันว่ามีนายกฯ กี่คน รัฐธรรมนูญไทยก็ระบุอยู่แล้ว ว่ามีนายกฯคนเดียว ก็มีคนเดียวก็คือผมนี่แหละ