เร่งล่าคนร้าย ซิ่งจยย.สาดน้ำกรด พยาบาลแม่ลูกอ่อน หวังชิงทรัพย์ มีโอกาสตาบอดสองข้าง
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุจากโรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ ว่า น.ส.วิภาวดี พาที อายุ 43 ปี ผู้ช่วยพยาบาลห้องกายภาพบำบัด โรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบ ก่อนสาดน้ำกรดใส่ได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย หลังออกเวรเพื่อจะกลับบ้าน เหตุเกิดบริเวณเส้นทางบ้านแดง-บ้านดงยาง หมู่ 13 ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ ห่างจากโรงพยาบาลประมาณ 1 กิโลเมตร
จากการตรวจสอบ พบว่า น.ส.วิภาวดี แม้จะยังพอถามตอบได้ แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากถูกน้ำกรดสาดเข้าใบหน้า แขนขวา และต้นขาทั้ง 2 ข้าง จนเสื้อผ้าขาดเป็นรู นอกจากนี้ น้ำกรดอาจทำลายเนื้อเยื่อดวงตาทั้ง 2 ข้าง ถึงขั้นพิการตาบอด มองเห็นไม่ชัด และหากแผลอาจจะติดเชื้อถึงขั้นเสียชีวิตได้
จากการสอบถาม นายคำพล อายุ 62 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนกำลังให้ข้าวสุนัข ได้ยินเสียงคล้ายรถชนกัน จึงวิ่งออกมาดู ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลืออยู่ร่องข้างถนนหน้าบ้าน และพบคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม ผิวดำ-แดง สวมเสื้อมีฮู้ดคลุมศีรษะไว้ ขี่จักรยานยนต์มาจอดพยายามเดินลงไปข้างทางหาผู้บาดเจ็บ พอคนร้ายเห็นตน จึงรีบวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไปทางบ้านดงยางอย่างช้า ๆ ตนจึงให้ภรรยาโทรแจ้ง 1669 มารับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
ตนมั่นใจว่า คนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้บาดเจ็บ หากตนไม่ออกมาพบก่อน ไม่รู้ว่าผู้บาดเจ็บจะเป็นอย่างไร คนร้ายคงจะลงไปชิงเอาทรัพย์สินของผู้บาดเจ็บ หากขัดขืนคงถูกทำร้ายซ้ำ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ใน อ.พิบูลย์รักษ์ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ไม่คิดว่าคนร้ายจะใช้น้ำกรดสาดใส่ผู้บาดเจ็บที่เป็นผู้หญิงแบบนี้
ทางด้าน จ.ส.อ.พัทธกร พันสาย อายุ 43 ปี สามีผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ภรรยาเพิ่งคลอดลูกสาวได้ 3 เดือน หลังจากตนแยกทางกับภรรยาคนเก่า โดยจากกันไปด้วยดี หลังจากที่ถามภรรยา ตนเชื่อว่าเป็นการหวังชิงทรัพย์ของวัยรุ่นคึกคะนอง หรือไม่ก็พวกจิตเวช ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องชู้สาว ส่วนภรรยาตอนนี้หมอบอกว่าน้ำกรดทำลายเนื้อเยื่อดวงตาไปบางส่วน ส่งผลให้อาจมองเห็นได้ไม่ชัดเหมือนก่อน อยากให้ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว