Tesla เรียกคืน รถกว่า 2 ล้านคัน หลังพบปัญหา

Tesla เรียกคืน รถกว่า 2 ล้านคัน หลังพบปัญหา

สำนักข่าว AP รายงานข่าวล่าสุดเรื่องที่เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกอย่าง เทสลา ได้เรียกคืนรถเกือบทั้งหมด ย้ำกว่าเกือบทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา เป็นจำนวนเกือบ 2.2 ล้านคัน เพื่ออัปเดตแก้ไขซอฟต์แวร์สืบเนื่องจากปัญหาไฟเตือนบนหน้าปัดรถยนต์มีขนาดเล็กจนเกินไป ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยของทั้งต่อตัวผู้ขับขี่รถเองและผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นๆ

นอกจากนี้ในประกาศล่าสุดยังระบุว่าไม่เพียงจะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ของรถเทสลาที่ผลิตตั้งแต่ปี 2012 – 2023 เท่านั้น แต่ทางบริษัทยังมีการยกระดับการสอบสวนกรณีปัญหาพวงมาลัยที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้สู่ระดับโครงสร้างทางวิศวกรรม ซึ่งนั่นอาจนำไปสู่การเรียกคืนรถตามมาได้อีก อย่างไรก็ตาม การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดของทางเทสลาจะเป็นการอัปเดตทางออนไลน์ ซึ่งกรณีนี้คงต้องรอติดตามว่าจะกระทบกับผู้ใช้รถเทสลาในไทยมากน้อยแค่ไหน หลังจากเริ่มเปิดจำหน่ายในไทยก็ได้รับความนิยมอย่างสูง มียอดผู้ใช้ทะลุ 20,000 คันในเวลาไม่ถึงครึ่งปีหลังเปิดจำหน่ายในไทย รวมทั้งมียอดจดทะเบียนเกิน 5,000 คันใน 6 เดือน รวมทั้งช่วงไตรมาสที่สองของปี 2023 ที่ผ่านมา เทสลายังทำยอดขายพุ่งสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นสถิติยอดขายที่สูงที่สุดของรถพลังงานไฟฟ้าแบรนด์นี้ กับยอดส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกกว่า 466,000 คัน รวมยอดขายทั่วโลกปีที่ผ่านมามากถึง 1.8 ล้านคัน

แต่ในความสำเร็จด้านยอดขายของเทสลา ก็ยังมีประเด็นร้อนของ อีลอน มัสก์ วิศวกรมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ออกมา หลังจากเขาเพิ่งถูกศาลตัดสินให้แพ้คดีที่ นายริชาร์ด ทอร์เน็ตต้า ผู้ถือหุ้นรายเล็กเพียง 9 เปอร์เซ็นต์ของเทสลา ฟ้องร้องถึงพฤติกรรมที่ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อเหล่าผู้ถือหุ้นเทสลารายอื่นๆ หลังจากทางบริษัทมีการจ่ายเงินสมนาคุณก้อนโตให้กับ อีลอน มัสก์ ก่อนหน้านี้

ซึ่งการแพ้คดีในครั้งนี้ทำให้ อีลอน มัสก์ ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับ นายริชาร์ด ทอร์เน็ตต้า สูงเกินความคาดหมายของหลายๆ คนที่ 56,000 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 1.99 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 หรือ 25 เปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สินทั้งหมดของ อีลอน มัสก์ ที่กว่า 210,600 ล้านดอลลาร์หรือเกิน 7.497 ล้านบาท ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่าถือเป็นการแพ้คดีที่ต้องจ่ายเงินชดเชยสูงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอีกหนึ่งคดีเลยทีเดียว.

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ