เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศ Reuters และ Wall Street Journal ได้มีการรายงานว่า ดอยซ์แบงก์ (Deutsche Bank) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่จากเยอรมนี ประกาศการเลิกจ้างครั้งใหญ่ 3,500 อัตรา เพื่อลดรายจ่ายให้ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ หลังจากรายงานผลกำไรไตรมาส 4 ปรับตัวลดลง 30%

ก่อนหน้านี้ ดอยซ์แบงก์เคยส่งสัญญาณว่าจะลดรายจ่ายด้วยการลดพนักงานมาแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ธนาคารประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการออกมา โดยพนักงานที่ได้รับผลกระทบจะเป็นส่วนของพนักงานแบ็คออฟฟิศเป็นหลัก จากพนักงานทั้งหมด 89,000 คนทั่วโลก

ทั้งนี้ ธนาคารรายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2566 อยู่ที่ 1,260 ล้านยูโร ประมาณ  4.8 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 30% จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,800 ล้านยูโร หรือประมาณ 6.9 หมื่นล้านบาท โดยเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างและกลุ่มค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว

แต่ถึงแม้กำไรจะลดลงก็ยังเป็นตัวเลขที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ว่าอาจลดลงเหลือ 832 ล้านยูโร ในขณะที่รายรับปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% อยู่ที่ 6,600 ล้านยูโร หรือพลาดเป้าหมายนักวิเคราะห์ที่ 6,780 ล้านยูโรไปเล็กน้อย สำหรับผลประกอบการทั้งปีงบประมาณ 2566 บริษัทมีกำไรลดลงจากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 4,210 ล้านยูโร แต่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3,664 ล้านยูโร

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกำไรมากถึง 14 ไตรมาสติดต่อกันแล้ว แต่ดอยซ์แบงก์ ระบุว่า จำเป็นต้องเลิกจ้างเพื่อประหยัดรายจ่ายให้ได้ตามเป้าหมาย 2,500 ล้านยูโร ซึ่งปัจจุบันยังทำได้เพียง 900 ล้านยูโรเท่านั้น ขณะที่ธนาคารพยายามดำเนินการปรับโครงสร้างมาต่อเนื่องหลายปีแล้ว นับตั้งแต่ที่คริสเตียน ซูอิง เข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ในปี 2561

ข้อมูล Reuters , Wall Street Journal