ศาลตัดสิน สั่งประหารชีวิต ลูกเอียด โพธิ์ดำ ยิงเพื่อนเจ้าบ่าวเสียชีวิต กลางงานแต่ง
จากกรณี นายเจริญ (สงวนนามสกุล) หรือ ฉายา ลูกเอียด โพธิ์ดำ อายุ 42 ปี ชาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงนายศราวุฒิ (สงวนนามสกุล) หรือ โกลาว อายุ 34 ปี เสียชีวิตบนถนนสายหินคอกควาย-บ้านหัวควน หลังมีปัญหากันมาจากงานแต่งงานเพื่อน ซึ่งจัดห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร แต่คนในงานเข้ามาห้ามปราม จนมีการยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัด ก่อนพาผู้เสียชีวิตออกมาจากงานเพื่อกลับบ้าน แต่ระหว่างเดินไปขึ้นรถ นายเจริญ เดินตามมาจ่อยิงแสกหน้า นายศราวุฒิ เสียชีวิต โดยเหตุเกิดคืนวันที่ 29 ธ.ค. 2565
ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 ศาลจังหวัดตรัง อ่านคำพิพากษาคดีตามที่พนักงานอัยการ ร่วมกับ นางหลก (สงวนนามสกุล) มารดาผู้เสียชีวิต เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง จำเลยที่ 1 คือ นายเจริญ ใน 3 ข้อหาหนัก และจำเลยที่ 2 น.ส.สุทิพย์ (สงวนนามสกุล) หรือผู้ใหญ่เขียว อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหัวควน ต.บ้านนา ฐานข้อหาสนับสนุนให้จำเลยที่ 1 นำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเพื่อนำไปก่อเหตุ
โดยในวันนัดฟังคำพิพากษา นายเจริญ หรือ ลูกเอียด โพธิ์ดำ ได้เดินทางมาที่ศาลพร้อมด้วย บรรดาญาติ ๆ และทนายประจำตัว ส่วนทางฝ่ายโจทย์ได้มีนางหลก ซึ่งเป็นโจทย์ร่วม มารดาของนายศราวุฒิ หรือโกลาว ได้เดินทางมาฟังพร้อมด้วยทนายประจำตัวฟังคำพิพากษา
นายเจริญ จำเลยที่ 1 ให้การว่ากระทำลงไปเพื่อป้องกันตัว อ้างว่าผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บอีก 2 รายได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตนก่อนเลยยิงสู้เพื่อป้องกันตัว ซึ่งศาลพิจารณาคำให้การของจำเลยที่อ้างว่าเป็นการป้องกันตัวฟังไม่ขึ้น ส่วนจำเลยที่ 2 น.ส.สุทิพย์ หรือผู้ใหญ่เขียว ให้การว่า อาวุธปืนที่จำเลยที่ 1 ใช้ก่อเหตุเป็นปืนราชการทางฝ่ายปกครอง และได้ให้อาวุธปืนจำเลยที่ 1 ไปจริง แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมนำไปใช้ก่อเหตุ
ศาลพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตราที่ 288 , 289 และ พรบ.อาวุธปืน ให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นประหารชีวิต โดยจำเลยที่ 1 มีความผิดกรรมเดียวแต่กฎหมายหลายบท จึงให้รับโทษตามบทลงโทษที่หนักที่สุด ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ลงโทษ จำคุก 6 เดือน ปรับ 12,000 บาท โดยให้รอลงอาญา 1 ปี
ทั้งนี้ มีรายงานว่า จำเลยที่ 1 ได้เตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ แต่การขอประกันตัวต้องยื่นต่อศาลอุทธรณ์ในการพิจารณา ส่วนความผิดทางปกครองกรณีจำเลยที่ 2 ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ทางนายอำเภอ และผู้บังคับบัญชา จะต้องมีการพิจารณาโทษตามระเบียบต่อไป