สาเหตุที่ประเทศไทย ขับรถพวงมาลัย ด้านขวา แต่อีก 163 ประเทศ ขับพวงมาลัย ด้านซ้าย
เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด คำคำนี้ เราคงได้ยินจนติดหู สำหรับประเทศที่รถยนต์มีพวงมาลัยอยู่ด้านขวา และขับชิดซ้าย อย่างเช่นประเทศไทย แต่ถ้าเราไปเที่ยวต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้, จีน, ฝรั่งเศส และอีกประมาณเกือบ 160 ประเทศทั่วโลก รถยนต์ในประเทศเหล่านี้ พวงมาลัยจะอยู่ด้านซ้าย และขับรถชิดทางขวา
เมื่อขับรถคนละด้านกัน ก็ทำให้บริษัทผลิตรถยนต์ทุกแบรนด์ ต่างก็ผลิตรถยนต์เป็น 2 แบบ เพื่อขายในแต่ละประเทศ คำถามคือ แล้วทำไมบางประเทศขับรถพวงมาลัยซ้าย บางประเทศขับรถพวงมาลัยขวา จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ มันอยู่ตรงไหน ?
โดยเพจเฟซบุ๊ก BrandCase ได้อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ดังนี้ จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อราว ๆ 1,000 ปีก่อน ตอนนั้นยังเป็นยุคกลาง ซึ่งเป็นยุคที่ทหารชนชั้นสูงในอังกฤษและยุโรป นิยมเดินทางโดยใช้ม้าเป็นหลัก
คนในยุคนั้น จะใช้มือซ้ายในการบังคับม้า และปล่อยให้มือขวา ซึ่งเป็นข้างที่คนส่วนใหญ่ถนัด จับอาวุธที่จำเป็นต้องใช้ เมื่อเจอศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้หลายคนเดินทางไปไหนมาไหนด้วยวิธีการขี่ม้า หรือรถลากจูง โดยจะเดินทางชิดซ้าย หรือยึดทางซ้ายเป็นหลัก และให้ยานพาหนะสวนมาทางด้านขวา ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเรื่อยมา
ซึ่งประเทศแรก ที่ได้ออกกฎการจราจรแบบชิดซ้าย คือประเทศมหาอำนาจในยุคนั้นอย่าง อังกฤษ โดยออกกฎนี้มาตั้งแต่ปี 1756 หรือเมื่อ 266 ปีก่อน
ส่วนทางด้านประเทศฝรั่งเศสที่ก็เรืองอำนาจในยุคนั้นเหมือนกัน จะถือธรรมเนียมปฏิบัติโดยให้ขุนนางและชนชั้นสูงที่มียานพาหนะในการเดินทาง อย่างรถม้า ก็จะเดินทางชิดซ้ายเป็นหลัก ส่วนกลุ่มชาวนาหรือชนชั้นแรงงาน ถูกจัดให้เดินทางชิดด้านขวา
จนกระทั่งในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส ในปลายศตวรรษที่ 18 เหตุการณ์นี้เป็นเหมือนการยกเลิกอภิสิทธิ์ของกลุ่มขุนนางและกลุ่มชนชั้นสูง ทำให้คนกลุ่มนี้ต่างพากันหวาดกลัว กลุ่มชนชั้นสูง จึงทำหลาย ๆ อย่างให้กลมกลืนกับประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นชนชั้นแรงงาน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนจากการเดินทางบนถนนแบบชิดด้านซ้าย ไปเป็นชิดด้านขวาแทน ตั้งแต่นั้นมา รัฐบาลฝรั่งเศส ภายใต้การนำของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ก็ได้เข้ามาปฏิวัติ และออกกฎหมายใหม่ ๆ
ซึ่งรวมไปถึงการออกกฎการจราจร แบบชิดด้านขวา ตรงข้ามกับอังกฤษ และในเวลาต่อมา กฎการจราจรแบบชิดด้านขวาของฝรั่งเศส ก็ได้แพร่หลายไปทั่วยุโรป
อีกประเทศหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงกฎการจราจร คือ สหรัฐอเมริกา ในช่วงแรก ที่สหรัฐอเมริกาเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมอังกฤษ ก็ยังคงใช้กฎการจราจรแบบชิดด้านซ้าย แต่พอสหรัฐอเมริกา ประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ ก็ตัดสินใจเปลี่ยนกฎการจราจร จากด้านซ้ายไปเป็นด้านขวา ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงให้เห็นว่า สหรัฐอเมริกาพ้นจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษแล้ว
ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1890s ก็เริ่มมีการผลิตรถยนต์ขึ้นเป็นครั้งแรก ในสหรัฐอเมริกา รถยนต์ในยุคนั้น ยังถูกผลิตออกมา ให้มีตำแหน่งที่นั่งคนขับอยู่ด้านเดียวกับการจราจร คือ มีพวงมาลัยอยู่ทางด้านขวา ในขณะที่ต้องขับรถชิดขวาเช่นเดียวกัน แต่พอทำแบบนี้ มันทำให้ตำแหน่งคนขับรถอยู่ริมถนน ซึ่งทำให้มองเห็นรถยนต์ที่สวนมาอีกฝั่งได้ลำบาก และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง
ต่อมาในปี 1908 รถยนต์ Ford Model T ก็ได้เปิดตัวขึ้น ซึ่งมีการเปลี่ยนที่นั่งคนขับ จากเดิมที่อยู่ด้านขวา ด้านเดียวกันกับการเดินรถ ไปเป็นด้านซ้าย ที่อยู่ตรงข้ามกับทิศทางการเดินรถแทน เพื่อให้คนขับอยู่ใกล้กับตำแหน่งกลางถนนมากที่สุด และสามารถมองเห็นรถยนต์ที่สวนทางมาจากอีกฝั่งได้
ซึ่งรถยนต์ Ford Model T ก็ได้มีการปฏิวัติวงการรถยนต์สหรัฐอเมริกา ทั้งในเรื่องของการขายรถยนต์ในราคาถูก ที่คนทั่วไปสามารถซื้อได้ และก็เป็นรถยนต์แบรนด์แรก ๆ ที่มีการเปลี่ยนที่นั่งคนขับ ให้อยู่ตรงข้ามกับทิศทางการเดินรถด้วย
ตัวอย่างอีกประเทศคือ สวีเดน ที่แต่เดิมใช้กฎการจราจรแบบชิดด้านซ้าย และ Volvo แบรนด์รถยนต์สัญชาติสวีเดน แต่เดิมมีที่นั่งคนขับอยู่ทางด้านซ้ายเช่นเดียวกัน ด้วยสภาพถนนที่แคบและคดเคี้ยว แถมยังมีพวงมาลัยอยู่ด้านเดียวกันกับทิศทางการเดินรถ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ตั้งแต่มีปัญหานี้ ทางรัฐบาลสวีเดน ก็พยายามแก้ไขด้วยการเปลี่ยนกฎจราจร จากชิดด้านซ้าย ไปเป็นด้านขวาแทน แล้วให้ประชาชนโหวต ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ ก็เห็นด้วย และทำให้กฎการเดินรถแบบนี้ สามารถทำได้สำเร็จตั้งแต่ปี 1967
โดยปัจจุบันมีประเทศที่ใช้ระบบการจราจร แบบขับรถชิดทางขวา 163 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ฝรั่งเศส และประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป
ส่วนประเทศที่ใช้ระบบการจราจร แบบขับรถชิดทางด้านซ้าย มีอยู่ 76 ประเทศ เช่น อังกฤษ และประเทศที่เคยอยู่ในอาณานิคม อย่าง อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ ก็ยังมีประเทศ ที่ไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ แต่ก็เลือกที่จะเดินรถทางซ้าย ตามแบบอังกฤษ อย่างเช่น ญี่ปุ่น ในช่วงยุคปฏิวัติเมจิ ที่อังกฤษช่วยสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่ให้กับญี่ปุ่น พร้อม ๆ กับถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ ทำให้ญี่ปุ่น ใช้การเดินรถไฟแบบชิดซ้าย ซึ่งในเวลาต่อมา ระบบถนนของญี่ปุ่นก็ใช้การจราจรแบบชิดซ้าย ตามแบบรถไฟ
ไทย : คาดว่าเริ่มต้นมาจากความสัมพันธ์กับอังกฤษ เมื่อช่วงประมาณ 200 กว่าปีก่อน ที่อังกฤษเข้ามามีบทบาททางการค้าและการทูตมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยมีรถยนต์แบบพวงมาลัยขวาจากอังกฤษ เริ่มเข้ามาขับบนถนนในไทย จนส่งอิทธิพลให้ไทย ใช้ระบบการเดินรถแบบชิดทางซ้าย พวงมาลัยอยู่ทางด้านขวา
ปัจจุบัน ก็มีรถยนต์มากถึง 87% ที่เป็นแบบพวงมาลัยซ้าย นั่นหมายความว่า ตลาดรถยนต์พวงมาลัยซ้าย มีมากกว่ารถยนต์พวงมาลัยขวา อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตลาดรถยนต์พวงมาลัยซ้ายส่วนใหญ่ ก็จะอยู่ในสหรัฐอเมริกา และจีน ส่วนอีก 13% เป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา ซึ่งก็รวมถึง ไทยเองด้วย
ข้อมูลจาก BrandCase