โหรดัง ทำนายดวงเมืองปี 67 แค่ต้นปีก็เห็นภาพแล้ว
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 เพจ Wasu โหรวสุ ได้เผยข้อความระบุว่า
พื้นดวงเมืองโดยรวม ปี 2567 ถือว่าเป็นปีที่ทั้งดาวอังคาร และดาวเสาร์ มีการโคจรไม่เป็นปกติ ส่งทำให้วงการทหาร ตำรวจ และข้าราชการจะมีเรื่องข่าวฉาว คดีการรับสินบน ไปจนถึงการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเกินขึ้นในหน้าสื่อบ่อยๆ อีกทั้งจะมีปัญหาความขัดแย้งกันเองภายในองค์กรเรื่องการแต่งตั้งผู้บังคับบัญชา จนไปถึงการปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาดที่ส่งผลทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่วงการทหาร ตำรวจ และข้าราชการ ด้านการเมือง ในปี 2567 การเมืองในช่วงต้นปี ถือว่ายังเป็นช่วงที่มีความขัดแย้งสูง รัฐบาลจะโดนฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองจ้องจับผิดเพื่อใช้โจมตี และบั่นทองเสถียรภาพของรัฐบาลตลอด เพราะรัฐบาลที่ยังไม่สามารถสร้างผลงานตามที่หาเสียงออกมาได้ทั้งหมด ส่งผลทำให้ช่วงต้นปี 3 เดือนแรกภาพลักษณ์การทำงานของรัฐบาลไม่ดี และไม่เป็นที่ถูกใจประชาชนมากนัก แต่ที่รัฐบาลต้องระวังคือ ข่าวลือ ข่าวปลอม และการสื่อสารผิดพลาดอาจจะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลแย่มากกว่าเดิม
แต่พอเข้าช่วงกลางปี 2567 การเมืองถึงจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่หลังเดือนกรกฎาคม เป็นต้นไป มีความเป็นไปได้สูงที่ รัฐบาลจะเริ่มเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ. มีการทำประชามติ และจัดตั้งสสร. เพื่อแก้ไขรธน. อย่างจริงจัง
ซึ่งจะส่งผลทำให้ประชาชนมีความตื่นตัวในเรื่องการเมืองพอๆ กับช่วงปี 2538-2539 ที่มีการจัดตั้งสสร. เพื่อร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งการโหวตเพื่อแก้ไขรธน. แต่ก็ต้องระวังปัญหาเรื่องกฎหมายเก่าๆ ที่ยังไม่ได้แก้ไข หรือข้อตกลงในด้านการลงทุนของชาวต่างชาติที่รัฐบาลชุดก่อนหน้าทำไว้ จนอาจจะมีการต่อต้านจนต้องมีการแก้กฎหมายฉบับใหม่ ส่วนทางด้านนักการเมืองก็จะมีข่าวฉาวไม่แพ้กัน อีกทั้งจะมีนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาล
และฝ่ายค้านโดนแฉความผิดที่เคยทำไว้ทั้งช่วงก่อนเลือกตั้ง และหลังเข้ารับตำแหน่งจนถูกดำเนินคดีย้อนหลัง โดยเฉพาะนักการเมืองที่เคยเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา หรือเคยมีประวัติเข้าไปพัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมาย หรือผู้มีอิทธิพล จะถูกขุดสิ่งที่เคยทำผิดในอดีตทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และบางคนที่มีความผิดร้ายแรงก็อาจจะถึงชั้นติดคุก รัฐบาลชุดปัจจุบันถือว่ายังมีความมั่นคง และได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในช่วงปี 2567 แต่ก็อย่าประมาท เพราะช่วงครึ่งปีหลังจะมีบททดสอบที่รัฐบาลจะต้องบริหารความขัดแย้งระหว่างประชาชนกลุ่มต่างๆ ในเรื่องการแก้ไขรธน. และยังมีความขัดแย้งจากเรื่องปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ กับประเทศเพื่อนบ้าน และชาติมหาอำนาจ ถ้ารัฐบาลจัดการไม่ดี จนส่งผลกระทบต่อประชาชน และนักธุรกิจ นักลงทุน อายุของรัฐบาลอาจจะอยู่ไม่ถึง 4 ปี ด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงต้นปี ถือว่าอยู่ในจุดที่ทรงทรุดๆ
เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะดวงเมืองราหูพึ่งย้าย และดาวเสาร์ยังไม่โคจรเดินหน้าเต็มที่ ส่งผลทำให้ประชาชนจะมีปัญหาเรื่องการทำมาหากินที่ไม่ค่อยสะดวก ธุรกิจ SME อาจจะยังมีกำไรน้อย และกำลังซื้อในประเทศยังไม่เพิ่มขึ้น อีกทั้งดอกเบี้ยเงินกู้ และหนี้สาธารณะ จะทำให้รัฐบาลมีข้อจำกัดในเรื่องการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งช่วง 3 เดือนแรกคือ มกราคม – มีนาคม ถือว่าเป็นช่วงที่คนในประเทศจะรู้สึกว่าเศรษฐกิจแย่ มีปัญหาเรื่องการค้าขาย การลงทุน ตลาดหุ้นยังไม่ดี ราคาที่ดินอสังหาริมทรัพย์ทรงตัว และมีปัญหาหนี้เสียมีคนโดนยึดรถ ยึดที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น พอเข้าช่วงเดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว และนโยบายส่งเสริมเรื่องการลงทุนจะเริ่มส่งผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น โดยจุดเริ่มต้นจะมาจากกระแสธุรกิจการท่องเที่ยวที่จะกลับมาดีอีกครั้ง หลังจากที่ตั้งแต่มีปัญหาโควิดปี 2563 แล้วการท่องเที่ยวของประเทศไทยตกไป ปีนี้การท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นกระแสที่ที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว
ซึ่งจะตามมาด้วยการลงทุนของชาวต่างชาติ มีบริษัทต่างชาติมาเปิดหรือลงทุน รวมไปถึงตลาดหุ้นของประเทศจะค่อยๆ ขึ้นอย่างช้าๆ จนช่วงกลางปีหลังเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปตลาดหุ้นจะมีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุน และเศรษฐกิจของประเทศที่จะเริ่มฟื้นตัว ซึ่งรัฐบาลควรใช้จังหวะจะมีการปรับขึ้นค่าแรง และออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนให้มากขึ้น เพราะถ้าไม่มีนโยบายปรับค่าแรง หรือกระตุ้นเศรษฐกิจพื้นฐานเลย ช่วงปลายปีรัฐบาลจะเจอปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ อาชญกรรมการฉ้อโกงจากการลงทุน รวมถึงปัญหาสงคราม นโยบายเศรษฐกิจการค้าของประเทศมหาอำนาจที่จะส่งผลต่อกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ซึ่งอาจจะทำให้เศรษฐกิจที่กำลังโตของประเทศต้องหยุดชะงัก รวมไปถึงรัฐบาลอาจจะได้รับผลกระทบจากนโยบายระหว่างประเทศที่ผิดพลาดจากการแสดงจุดยืนในเรื่องของความข้ดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจ หรือนโยบายทางการเมืองของประเทศใกล้เคียง
ดังนั้นช่วงปลายปีการทำงานของ รมต. ต่างประเทศจะต้องทำงานหนัก และมีไหวพริบมากเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ประเทศกลายเป็นคู่ขัดแย้งกับชาติมหาอำนาจ หรือไปทะเลาะกับประเทศเพื่อนบ้านจนการค้า และการท่องเที่ยวของประเทศเสียหาย
- อุบัติเหตุ ภัยพิบัติ และอาชญากรรมที่ต้องระวังในปี 2567 เนื่องจากปี 2567 เป็นปีที่ดาวพุธโคจรเสีย และราหูอยู่ในมุมวินาศของดวงเมืองทำมุมสัมพันธ์กับดาวพุธ ศุกร์ และราหูเดิม
- จะเกิดอุบัติเหตุจากการเดินทางด้วยเรือ เครื่องบิน หริอยานพาหนะประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่บนบก เช่นโป๊ะล่ม เรือข้ามฟาก เรือท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวล่มมีผู้เสียชีวิต หรือมีเหตุเครื่องบินขัดข้อง หรือสภาพอากาศไม่ดี ทำให้ต้องลงจอดฉุกเฉิน หรือเกิดอุบัติเหตุตกกระทันหัน คนที่โดยสารด้วยเครื่องบินเป็นประจำ ช่วงกลางปีพอเข้าฤดูมรสุม ควรเช็คสภาพอากาศ และวางแผนการเดินทางล่วงหน้าทุกครั้ง เพราะสภาพการจราจรทางอากาศหนาแน่น อาจจส่งผลทำให้ไฟล์ดีเลย์ หรือสายการบินสะเพร่าไม่ตรวจสอบสภาพเครื่องบินให้ดีก่อนทำการบินก็อาจจะส่งผลทำให้เสี่ยงที่จะอุบัติเหตุเป็นต้น
- เกิดแผ่นดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก และอุทกภัยในจังหวัดที่อยู่ใกล้ภูเขา ติดริมน้ำ และใกล้ทะเล
- เกิดแผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้าน หรือจังหวัดแถบชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันตก ส่งผลทำให้ถนน อาคาร และเขื่อนอาจจะได้รับความเสียหาย
- เกิดอาชญกรรมเกี่ยวกับการฉ้อโกงสูง โดยเฉพาะเรื่องหลอก หรือชักชวนให้มีการลงทุนในธุรกิจปลอมๆ จนไปถึงการแอบอ้างหน่วยงานราชการขนาดใหญ่มาหลอกให้ประชาชนหลงเชื่อโอนเงินเพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษ หรือความช่วยเหลือจากรัฐ
ธุรกิจที่เด่นในปี 2567
1. ธุรกิจด้านบริการการท่องเที่ยว และบริการขนส่งที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
2. ธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับการซ่อมแซม เช่น ตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ซ่อมรถยนร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
3. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพพวกฟิสเนต สปา ร้านนวด และธุรกิจที่รับดูแลคนป่วยที่พึ่งพักฟื้นจากการผ่าตัด หรือเด็ก กับผู้สูงอายุ
4. ธุรกิจด้านการศึกษา เช่นรับวางแผนหลักสูตรโฮมสคูล เตรียมสอบวิชาชีพ หรือสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ธุรกิจที่เป็นช่วงขาลงในปี 2567
1. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประเภทให้เช่าที่อยู่อาศัย จะประสบปัญหาผู้เช่าลดลง และผู้เช่าไม่จ่ายค่าเช่า ถ้าให้เช่าที่เพื่อการทำธุรกิจแบบให้เช่าอาคาร สำนักงาน ก็จะมีปัญหาเช่นกันโดยเฉพาะช่วงต้นปีจะมีบริษัทปิดตัว และยกเลิกเช่าเยอะ
2. ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขนม และคาเฟ่ ธุรกิจด้านนี้จะถึงจุดอิ่มตัว และมีการแข่งขันกันสูง ที่อาจจะทำให้ภัตตาคารเก่าแก่ หรือร้านอาหารชื่อดังต้องปิดตัว เพราะขาดทุน หรือไม่มีลูกหลานมาปรับปรุงกิจการ รวมไปถึงร้านอาหารเชนดังๆ ที่เปิดในห้างสรรพสินค้าก็จะประสบปัญหาเรื่องคุณภาพ และรสชาติอาหารลดลง และมีคู่แข่งใหม่ๆ เกิดขึ้น จนอาจจะต้องปิดสาขา
3. ธุรกิจสีเทา ที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ เจ้ามือหวยเถื่อน ที่จะได้รับผลกระทบจากกฎหมายใหม่ และนโยบายของรัฐบาลที่จะจัดการกับธุรกิจด้านนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากคนที่พึ่งมีชื่อเสียง มีหน้ามีตาในสังคมโดนแฉว่าพัวพันกับธุรกิจเหล่านี้มาด้วย ทำให้มุมมองของสังคมที่มีต่อคนทำธุรกิจด้านนี้ไม่ดี ส่วนใครที่ต้องการอ่านคำทำนายดวงเมืองอย่างละเอียดสามารถอ่านได้ที่ หนังสือศาสตร์แห่งโหร ปี 2567 ของสำนักพิมพ์มติชนครับ