ชาวบ้าน ร้องกองปราบฯ ให้ช่วย หลังถูกนักการเมืองท้องถิ่นข่มขู่คุกคาม แจ้งตำรวจ 8 ครั้ง คดีไม่คืบ

ชาวบ้าน ร้องกองปราบฯ ให้ช่วย หลังถูกนักการเมืองท้องถิ่นข่มขู่คุกคาม แจ้งตำรวจ 8 ครั้ง คดีไม่คืบ

วันที่ 11 ม.ค. 67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พาผู้เสียหายพี่น้อง 2 ราย เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต เข้าร้องขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม กรณีถูกผู้ใหญ่บ้านและคนในครอบครัวข่มขู่คุกคามถึงขั้นขู่จะทำร้ายให้ถึงแก่ชีวิต เหตุเมื่อปีที่แล้ว สาเหตุเกิดจากปมที่ดิน นักการเมืองท้องถิ่นพยายามที่จะยึดที่ดินของผู้เสียหายเป็นของสาธารณะ เพื่อที่จะเอามาตั้งที่ขายของทำมาหากิน ซึ่งตามโฉนดที่ดินก็เป็นชื่อพ่อของผู้เสียหาย โดยถูกต้องตามกฎหมาย

ซึ่งผู้เสียหายได้นำหลักฐานคลิปและภาพถ่ายเหตุการณ์แต่ละครั้งไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง ภ.จว.ภูเก็ต ให้ดำเนินคดีถึง 8 ครั้ง แต่คดีไม่คืบหน้า ไปร้องขอความช่วยเหลือศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด แต่ปรากฎเอกสารร้องทุกข์กลับไปถึงมือคู่กรณี ซึ่งทำให้ไม่กล้ากลับเข้าบ้านของตัวเอง วันนี้จึงมาร้องกองปราบฯ เพื่อให้ช่วยเหลือด้านคดี จะได้กลับไปอยู่บ้านตัวเองได้เสียที

ด้าน น.ส.แอน (นามสมมุติ) 33 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า วันนี้ตนมาในฐานะผู้เสียหาย เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต มาขอให้กองปราบฯช่วย เนื่องจากตนโดนผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต พยายามข่มขู่คุกคามและพยามสังหารหลายครั้ง ซึ่งตนโดนกระทำเช่นนี้เป็นเวลา 3 ปี กว่าแล้ว ทำให้ไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่บ้านตัวเองได้ต้องปล่อยร้าง โดยพฤติกรรมของเขาคือจะให้คนติดตามตัวตลอด พยามขมขู่ โดยแจ้งความไป เกือบ 20 ฉบับแต่เรื่องกับเงียบ โดยสารวัตรที่เราไปแจ้งความได้สายตรงไปถึงนักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าว

ซึ่งหลังจากแจ้งความไป ความรุนแรงก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ กล้องวงจรปิดก็สามารถบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ของการกระทำอันป่าเถื่อนของพวกเขาได้ และตนได้ส่งเอกสารไปถึงผู้ใหญ่บ้านว่า ตนโดนนักการเมืองท้องถิ่นบุคคลนี้ข่มขู่คุกคาม แต่โดนผู้ใหญ่บ้านตอบกลับมาว่า ไม่อาจไกล่เกลี่ยได้ เนื่องจากที่ดินนี้เป็นที่ดินสาธารณะ ทำให้เกิดเหตุแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งถืออาวุธมีด มายืนรอหน้าบ้าน และจะปิดบ้านพยามทำทุกอย่างเพื่อเอาที่ดินไปจากเรา

นั่นทำให้เราทนไม่ได้ จึงได้ไปร้องศูนย์ดํารงธรรม เพราะคิดว่าคือสิ่งที่จะช่วยเราได้ แต่เรื่องเงียบ และมีการเอาเอกสารของผู้ร้องไปเปิดเผยให้บุคคลอื่นรับรู้ และ ทำให้ผู้กระทำความผิดเยาะเย้ยอีก และยังมีลายเซ็นพี่น้องผู้ใหญ่เซ็นรับรองเอกสารราชการผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้มีอิทธิพลพยายามปิดข่าว และทำเอกสารปลอมให้เราเข้าไม่ถึงหน่วยงานในจังหวัดในการร้องเรียนพฤติกรรม ร้องนายอำเภอ , ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งคนเก่าคนใหม่แต่ก็ไม่มีใครช่วย วันนี้หนูเลยมาร้องจ่าคิง แตงทิม เพื่อคุ้มครองพยาน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านมีอิทธิพลทำตัวเหนือกฏหมาย 1 มายืนคุ้มเชิงผู้กระทำความผิด

ในขณะที่นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี น้องชายผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า อยากให้กองปราบฯช่วยดำเนินคดี อย่างเร่งรัด และถูกต้องอย่างตรงไปตรงมา เพราะกองปราบฯเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเราแล้ว โดยผู้กระทำความผิดท้าท้าย เพราะตำรวจไม่ดำเนินคดีอะไรเลยกับผู้กระทำความผิด โดนข้อหาที่จะแจ้งคือ ข่มขู่คุกคาม ทำลายทรัพย์สิน และบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล

ด้านจ่าคิงส์ ฝากถึงรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย เพราะเข้าค่ายผู้มีอิทธิพลข่มขู่ชาวบ้านชาวเหลือพวกพ้องเดียวกัน และที่สำคัญศูนย์ดำรงธรรมที่ควรช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน กลับปล่อยให้เอกสารร้องทุกข์ไปอยู่กับฝ่ายคู่กรณีเอาไปให้ประโยชน์ แบบนี้ประชาชนจะหันหน้าไปพึ่งใครได้

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ