ระทึก! รถบรรทุกน้ำมัน 4 หมื่นลิตรพลิกคว่ำ ทางหลวงหมายเลข 24 สุรินทร์
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง เสียหลักลงข้าง ชนอัดกับต้นไม้ บนทาง ทล.หมายเลข 24 ฉ บ.หนองทนง ต.บ้านไทร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จึงประสาน จนท.กู้ชีพ-กู้ภัยในพื้นที่รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-1296 ศรีสะเกษ และลูกพ่วง 70-9233 ศรีสะเกษ เป็นรถของ หจก.พณิชา ปิโตเลี่ยม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประเภทรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลจำนวน 24,000 ลิตร และน้ำมันเบนซิน จำนวน 16,000 ลิตร เสียหลักลงข้างทาง ในสภาพนอนตะแคง หลังชนต้นไม้หักโค่น
พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายทิวา อายุ 36 ปี มีอาการปวดหลังและอาเจียน จนท.กู้ชีพ-กู้ภัย จึงรีบนำตัวออกมาจากที่เกิดเหตุเพื่อปฐมพยาบาลให้ไกลออกมาจากรถบรรทุกน้ำมันที่สุด เกรงจะเกิดการระเบิดได้ เนื่องจากที่เกิดเหตุมีน้ำมันรั่วไหลจำนวนมาก พร้อมได้ประสานรถบรรทุกน้ำดับเพลิง เข้าสแตนด์บาย เตรียมความพร้อมเข้ากู้รถประสบเหตุ อยู่ระหว่างรอรถฉีดโฟมจากหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองสุรินทร์ และรถเครนเข้ามาสนับสนุน ฉีดป้องกันไฟลุกที่จะเป็นสาเหตุการระเบิดได้
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนขับกำลังขับรถบรรทุกน้ำมันจาก จ.ระยอง เพื่อเดินทางไปยัง จ.ศรีสะเกษ พอเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ เกิดอาการวูบหลับในก่อนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถกู้รถบรรทุกน้ำมันได้แล้ว โดยใช้เวลากว่า 8 ชม.จึงกู้ได้สำเร็จ ด้วยการใช้รถเครนถึง 2 คันในการกู้รถขึ้นมา พร้อมทั้งใช้โฟมฉีดเลี้ยงเข้าไปที่ตัวรถเพื่อไม่ให้เกิดประกายไฟขณะใช้เครนยกกู้รถขึ้นมา ท่ามกลางความโล่งอกของ จนท.ทุกฝ่ายที่ระดมกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 70 นาย เพื่อวางแผนและประเมินสถานการณ์ในการเก็บกู้รถบรรทุกน้ำมันคันดังกล่าวอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้ ระหว่างปฏิบัติการเก็บกู้ได้เปิดช่องทางจราจรพิเศษ 1 ช่องทาง กม.ที่ 209.500-211.500 ระยะทาง 2 ก.ม.ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างยกเคลื่อนย้ายรถบรรทุกน้ำมันไปเก็บไว้ยังสถานที่ปลอดภัยห่างจากชุมชน และจากการตรวจสอบพบว่ามีน้ำมันคงเหลืออยู่ในถังเพียง 3 แทงค์ ประมาณ 8,000-10,000ลิตร เท่านั้น จากทั้งหมด 4 หมื่นลิตร โดยหลังจากการเคลื่อนย้ายรถบรรทุกน้ำมันออกจากพื้นที่แล้ว จะมีการเปิดเส้นทางการจราจรตามปกติต่อไป
เรียบเรียง siamnews