เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2567 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.ปาลฒิพย์ฯ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 1180/2566 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2566

โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน ลักทรัพย์นายจ้าง และพนักงานของสถาบันการเงิน กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นการเสียหายแก่สถาบันการเงิน สถานที่จับกุม หน่วยบริการตำรวจทางหลวงวังมะนาว ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

พฤติการณ์ เมื่อประมาณ ปี 2564 ขณะที่ น.ส.ปาลฒิพย์ฯ ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร ในขณะนั้น ได้เชิญชวนลูกค้าให้มาสมัครแอปพลิเคชันสินเชื่อ และต่อมาน.ส.ปาลฒิพย์ฯ ได้ติดต่อไปยังลูกค้า เพื่อขอทำการอัพเดทแอปพลิเคชันกู้เงินให้กับลูกค้า เมื่อสบโอกาสได้อาศัยช่วงจังหวะดังกล่าว โอนเงินออกจากบัญชีสินเชื่อของลูกค้าไปยังบัญชีของคนที่รู้จัก เป็นเหตุให้ธนาคารได้รับความเสียหาย หลังก่อเหตุ ธนาคารได้ตรวจสอบพบความผิดปกติ และเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ต่อมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติหมายจับ น.ส.ปาลฒิพย์ฯ ในข้อหา ลักทรัพย์นายจ้าง และพนักงานของสถาบันการเงิน กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ ที่มิควรได้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นการเสียหายแก่สถาบันการเงิน เพื่อจัดการตามหมายจับ และดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ทำการสืบสวนและติดตามจับกุมผู้ต้องหามารับโทษตามกฎหมายโดยเร็ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. จึงได้ทำการออกสืบสวนจนพบเบาะแสว่า น.ส.ปาลฒิพย์ คำสุข หนีกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมวางแผนกับ พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. จากนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล ตรวจสอบในพื้นที่ จ.ราชบุรี จนพบรถของคนร้าย และได้ขับรถติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน